BLISSขอตลท.กลับเทรดQ3
บริษัทจดทะเบียน วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 ผู้เข้าชม : 4 คน
นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายบริหารและการเงิน บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงไตรมาส 3/2556 หลังจากที่บริษัทได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น และผู้บริหารใหม่ รวมถึงปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จากเดิมเป็นธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยได้นำเสนอแผนธุรกิจใหม่ และยื่นหนังสือขอกลับเข้ามาซื้อขายใน ตลท. ตั้งแต่เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางตลท.
สำหรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ของบริษัท แบ่งเป็น3 ด้าน คือ 1.ธุรกิจติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและบริการขยายเครือข่ายการส่งสัญญาณ 3G ภายในอาคาร 2.ธุรกิจไอทีโซลูชั่น และ 3.ธุรกิจซอฟต์แวร์ และดิจิตอลมีเดีย
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2556 บริษัทคาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร จากไตรมาส 1/2556 ที่มีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 4.62 ล้านบาท โดยในส่วนของไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี 2556 บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานติดตั้งระบบเครือข่ายสัญญาณ 3G อีกมูลค่า 400 ล้านบาท และบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานพัฒนาซอฟต์แวร์ และโครงการอื่นๆ ของรัฐเพิ่มเติม
ดังนั้นในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าหมายมียอดขาย 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและบริการขยายเครือข่ายการส่งสัญญาณ 3G ภายในอาคาร จำนวน 600 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างการเปิดใบสั่งซื้อสินค้า (P/O) อีกจำนวน 75 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายการส่งสัญญาณ 3G ใน 3 อาคาร มูลค่า 150 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปได้ในเดือน มิ.ย.นี้
ส่วนธุรกิจไอทีโซลูชั่น มีงานจำนวน 300 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างการเปิดใบสั่งซื้อสินค้า (P/O) อีกประมาณ 700,000 บาท และธุรกิจซอฟต์แวร์ และดิจิตอล มีเดีย จำนวน 100 ล้านบาท โดยบริษัททำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับศูนย์บริการวิชาการมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รวมถึงการพัฒนา Mobile Application ให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำของประเทศ อีก 2 สโมสร
“บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจมาเป็นธุรกิจเทเลคอมทั้งทางด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ เพราะมีโอกาสเติบโตสูงตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ที่กำลังพัฒนามาเป็น 3Gและอนาคตจะก้าวเข้าสู่ระบบ 4G ทำให้ในช่วง 3-5ปีนี้ ธุรกิจโทรคมนาคมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนนำเงิน 10% จากยอดขาย 1,000 ล้านบาทในปี 2556 หรือคิดเป็น 100 ล้านบาท มาล้างขาดทุนสะสมที่บริษัทมีอยู่ ณ ไตรมาส 1/2556 จำนวน 216.16 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ภายใน 2 ปี ขณะที่ส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ 1,500 ล้านบาท บริษัทมีแนวทางที่จะลด 2 แนวทาง คือ การเพิ่มทุน และการรวบพาร์-ลดพาร์ คาดว่าจะสามารถลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นได้ภายใน 2-3 ปี และบริษัทน่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ภายในปีที่ 3
“แนวทางในการแก้ปัญหาลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นด้วยการรวบพาร์ จากตอนนี้ที่มีหุ้นอยู่ 19,000 ล้านหุ้น เป็นแนวทางที่นักบัญชีไม่อยากทำ เพราะเป็นแนวทางที่กระทบผู้ถือหุ้น ส่วนถ้ามีการเปิดเทรดคาดว่าฟรีโฟลทจะขึ้นได้ถึง 40% แต่ก็ต้องดูตอนเทรดอีกทีก่อน” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น