วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สมโภชน์ฟุ้งลงทุน
ไฟฟ้าลม800MW

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 4 คน 

บิ๊ก EA "สมโภชน์" ฟุ้งเล็งลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 806 เมกะวัตต์ ส่วนปีนี้กำไรปรี๊ดรับปริมาณขายไบโอดีเซลพุ่ง 120 ล้านลิตร บุ๊ครายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จ.นครสวรรค์เพิ่ม

                นายอมร ทรัพย์ทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบัญชีและการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/56 มีทิศทางที่เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี รวมถึงรับรู้รายได้จากบริษัทลูก ESM
                ดังนั้น ปีนี้บริษัทน่าจะมีกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปีนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณการขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านลิตร จากปีก่อนที่มีปริมาณการขายไบโอดีเซลประมาณ 100 ล้านลิตร รวมถึงจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
                “เรื่องรายได้ บริษัทยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากรายได้จะขึ้นอยู่กับราคาขาย ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาปาล์มน้ำมัน แต่บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี และรักษาระดับมาร์จิ้น จากการพัฒนาระบบการผลิต เพื่อลดต้นทุนในการผลิต”
                สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ จะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรเต็มปีตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป โดยประมาณการรายได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวไว้ที่ 1,586 ล้านบาทต่อปี และกำไรสุทธิ 915 ล้านบาทต่อปี
                รวมถึงหากภาครัฐบาลมีการผลักดันให้มีการปรับส่วนผสมไบโอดีเซล จาก B5 เป็น B7 น่าจะส่งผลกระทบทางบวกต่อบริษัท ทำให้การขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้ที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากภาครัฐจะมีการหารือร่วมกับภาคเอกชนในวันที่ 13 มิ.ย.นี้
                นายสมโภชน์ อานุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ซึ่งมีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย 1.ที่จังหวัดลพบุรี ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 55
                2.ที่จังหวัดนครสวรรค์  ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์  มีกำหนดที่จะ COD ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้  3.ที่จังหวัดลำปาง ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์  มีกำหนดที่จะ COD ในวันที่ 1 ธ.ค. 57 และ 4.ที่จังหวัดพิษณุโลก ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์  มีกำหนดที่จะ COD ในวันที่ 1 ธ.ค. 58
                นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อีก 17 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 806 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นภาคใต้ 4 โครงการ คือที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 โครงการ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ และจังหวัดสงขลา 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 81 เมกะวัตต์ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 13 โครงการ คือที่จังหวัดชัยภูมิ 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 535 เมกะวัตต์ และจังหวัดมุกดาหาร 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา PPA รวมถึงขออนุญาตก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานที่วางไว้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจะเริ่มทยอยดำเนินการผลิตได้ตั้งแต่ในปี 2558-2563 ดังนั้น ในปี 2563 บริษัทจะมีกำลังการผลิตรวม 1,084 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม 75% ส่วน 25% จะมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
                “สัดส่วนรายได้ของบริษัท หากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด จะมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสัดส่วน 50% และมีรายได้จากไบโอดีเซล 50% และถ้าหากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมสามารถขึ้นได้ทุกโครงการ ก็จะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมากที่สุด 40% ที่เหลือจะใกล้เคียงกัน คือมีรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 30% และรายได้จากไบโอดีเซล 30%” นายสมโภชน์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น