วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

‘วรรณ’เชียร์เก็บบิ๊กแคป กองทุนรวม ประกัน วันอังคารที่ 03 กันยายน 2556

‘วรรณ’เชียร์เก็บบิ๊กแคป

กองทุนรวม ประกัน วันอังคารที่ 03 กันยายน 2556 
ผู้เข้าชม : 11 คน 

บลจ.วรรณ แนะเก็บหุ้นบิ๊กแคปทุกกลุ่มที่ราคาลงต่ำกว่า 30% เข้าพอร์ต เพื่อทำกำไรรับเม็ดเงินลงทุนนอกรอบใหม่ไหลกลับเข้ามาดันหุ้นรีบาวน์ระยะสั้นในเดือนต.ค.นี้ ด้านประชุมเฟดกลางเดือนนี้ มั่นใจ QEเลิกแน่ เตรียมเก็บกลุ่มปิโตฯ-พลังงานเข้าพอร์ต
นายวิน อุดมรัชตวิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หลังเดือนกันยายนปีนี้ เชื่อว่า หุ้นไทยจะกลับมารีบาวด์ได้ใหม่อีกครั้ง ตามเม็ดเงินลงทุนนอกกลับมาไหลเข้าประเทศอีกครั้ง แม้ว่าการไหลเข้าดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้นก็ตาม เนื่องจาก ความชัดเจนเรื่องมาตรการการเงินเชิงนโยบาย QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 กันยายนนี้
ดังนั้น ช่วงที่ดัชนีปรับฐานรับปัจจัยดังกล่าวและดัชนียังไม่หลุดระดับที่ 1,250 จุด นักลงทุนควรหาจังหวะเหมาะสมเข้าลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มต่างๆเพิ่ม ทั้งหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มปิโตเคมี-พลังงาน กลุ่มรับเหมาก่อสร้างฯลฯ เป็นต้น
เนื่องจาก ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเน้นลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปที่ราคาปรับตัวลงมากว่า 30% เป็นหลัก เพราะถือเป็นราคาที่เหมาะแก่การเข้าลงทุนมากที่สุด
สำหรับความผันผวนจากการลงทุน เชื่อว่ายังคงมีต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยลบสำคัญยังคงมีอยู่ ทั้งในเรื่องของการชะลอเม็ดเงินลงทุน QE การปรับตัวลดลงของเศรษฐกิจเอเชีย การปรับตัวลดลงของเศรษฐกิจไทย และปัญหาทางการเมืองไทย ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวยังไร้ความชัดเจนของปัญหา โดยเฉพาะเรื่อง QE คือปัจจัยลบหลักที่ตลาดหุ้นไทยตอบสนองค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม การชะลอเม็ดเงินลงทุนตามแนวคิดของเฟดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นผลดีที่จะช่วยให้ค่าเงินลาทกลับมาอ่อนค่ามากขึ้น เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมส่งออก ดังนั้น หากนักลงทุนเข้าลงทุนตามปัจจัยบวกดังกล่าว ควรเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มปิโตเคมีและพลังงานเป็นหลัก สำหรับกรอบดัชนีหุ้นไทยทั้งปีปรับลงจาก 1,640 จุด มาอยู่ที่ 1,526 จุด ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 1,250 จุด นักลงทุนควรเลี่ยงการลงทุนทันที
นายวิน กล่าวว่า เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนภายในประเทศ บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ เจแปน ฟันด์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุนในการเข้าทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นในการสร้างผลตอบแทนต่อพอร์ตลงทันเพิ่มขึ้น กองทุนดังกล่าวเสนอขายระหว่างวันที่ 2-11 กันยายน 2556
กองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีมีแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการดีต่อเนื่อง รวมถึงและมีการป้องกันความเสี่ยงอย่างน้อย 90% ของมูลค่าเงินลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ บริษัทเน้นลงทุนในขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ จากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยังยืนภายนับจากนี้ไป 2-3 ปีข้างหน้า ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากภายในประเทศ ประกอบกับค่าเงินเงินอ่อนค่า ส่งผลให้มีหุ้นหลายกลุ่มที่เหมาะแก่การลงทุน อาทิเช่น หุ้นกลุ่มยานยนต์และขนส่ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น