CPNทุ่มงบลงทุนต่างประเทศ
บริษัทจดทะเบียน วันพุธที่ 04 กันยายน 2556ผู้เข้าชม : 7 คน
“CPN” เปิดแผน 5 ปี ผุดศูนย์การค้าในอาเซียนรับ AEC จำนวน 2-3 แห่ง งบลงทุน 4,000-6,000 ล้านบาทต่อแห่ง ประเดิมมาเลเซียแห่งแรก 5,800 ล้านบาท เปิดปี 59 พร้อมศึกษาตลาดอินโดนีเซีย-เวียดนาม ยันรายได้ปีนี้โต 15%
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ตามแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 2556-2560) บริษัทจะเปิดศูนย์การค้าในตลาดอาเซียนประมาณ 2-3 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนขยายศูนย์การค้าในประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง ประมาณปีละ 3 แห่ง
โดยการลงทุนในประเทศ บริษัทยังเหลือเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ส่งผลให้สิ้นปีนี้มีศูนย์การค้ารวม 24 แห่ง ขณะที่ปีหน้า (ปี 2557) บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา และเซ็นทรัลพลาซา ระยอง นอกจากนี้ ในปี 2558 จะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสเกต
สำหรับในปี 2559 จะเปิดให้บริการเซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้ (CentralPlaza i-City) ที่ประเทศมาเลเซีย ในรูปแบบ “รีจินัล มอลล์” มูลค่า 580 ล้านริงกิต หรือประมาณ 5,800 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งนี้ในปี 2557 ทั้งนี้ ศูนย์การค้าแต่ละแห่งจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ปี จะถึงจุดคุ้มทุน
ทั้งนี้ เซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้ จะเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์ทันสมัยทั้งการช้อปปิ้ง บันเทิง และเป็นศูนย์กลางการพบปะของชุมชนในเขตตะวันตกของรัฐสลังงอร์ ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ขนาดกว่า 28 ไร่ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด (GFA) ประมาณ 278,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่ขาย (NLA) ประมาณ 89,700 ตารางเมตร
“ศูนย์การค้าในมาเลเซีย บริษัทร่วมทุนกับบริษัท ICP ในเครือของ I-Berhad ยักษ์ใหญ่ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซีย ซึ่ง ICP ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ CPN โดยบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งในประเทศมาเลเซีย จะถือหุ้นในสัดส่วน 60%”
นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพของตลาดมาเลเซีย จึงน่าจะเปิดศูนย์การค้าได้มากกว่า 10 แห่ง ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะส่งผลให้มีประชากรรวม 600 ล้านคน
ด้านงบลงทุน บริษัทตั้งไว้สำหรับในประเทศประมาณ 12,000-15,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งรวมการควบรวมกิจการหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) ขณะที่งบลงทุนในต่างประเทศตั้งไว้ประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท โดยเงินจะมาจากการกู้จากสถาบันการเงิน จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน
นางสาววัลยา กล่าวว่า ภาพรวมปีนี้บริษัทน่าจะมีรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้เติบโตมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับมีการทยอยเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ยประมาณ 5-7%
ส่วนกรณีการประมูลพื้นที่สวนลุมไนท์บาซาร์เดิมนั้น บริษัทยื่นประมูลพัฒนาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ในนามบริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด) บริเวณสวนลุมไนท์เดิม เนื้อที่ 88 ไร่ ไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว คาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ภายในสิ้นปีนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น