CPALLบันทึกขาดทุนFXในQ3
ซื้อเมื่ออ่อนตัวรอปีหน้าโต33%
วันพุธที่ 11 กันยายน 2556 เวลา 09:09:18 น. ผู้เข้าชม : 1056 คน
บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” สำหรับ CPALL เนื่องจากคาดได้รับผลกระทบค่าเงินบาท ทำให้ขาดทุน FX ในไตรมาส 3/56 แต่กำไรปกติยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดปีหน้าโตแกร่งกว่า 33%
รับผลกระทบชั่วคราวจากเงินบาทที่อ่อนค่า คาดบันทึกขาดทุน FX มีนัยฯใน 3Q56
ปัจจุบัน CPALL มีเงินกู้สกุลดอลลาร์ที่ใช้ซื้อ MAKRO อยู่ราว 5.8 พันล้านเหรียญ โดย ณ สิ้นงวด 2Q56 ได้บันทึกรายการดังกล่าวโดยแปลงเป็นเงินบาทที่อัตราแลกเปลี่ยน 31.2 บาท และทุกสิ้นงวดแต่ละไตรมาสจะต้องแปลงเงินกู้ดังกล่าวเป็นเงินบาทตามอัตราตลาด (Mark to market) ซึ่งแม้ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนจะอ่อนค่าจากสิ้นงวด 2Q56 แต่แนวโน้มจากนี้ คาดจะแข็งค่าขึ้น (อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันอยู่ที่ราว 32 บาท/เหรียญ) ตามกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามามากขึ้นพร้อมกันทั่วภูมิภาค บวกกับภาคการส่งออกที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากจากการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ในงบกำไรขาดทุน โดยกรณีเลวร้ายสุด เชื่อว่าบริษัทได้ทำป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้เพียง 60% ทำให้มีโอกาสจะทำให้เกิดผลขาดทุนจาก FX ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท (คิดบนฐานอัตราแลกเปลี่ยน 32 บาท/เหรียญ) ถือว่ามีนัยฯเมื่อเทียบกับฐานกำไรในแต่ละไตรมาสที่อยู่ราว 3 พันล้านบาท (ทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่า จะมีผลให้กำไรสุทธิลดลง 20%)
อย่างไรก็ตาม ด้วยทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เชื่อว่า การบันทึกขาดทุนอย่างมีนัยฯจาก FX จะเป็นปัจจัยกดดันในงวด 3Q56 ไตรมาสเดียวเท่านั้น ขณะที่บริษัทจะทยอยจ่ายชำระคืน (Refinance) และเปลี่ยนเงินกู้ก้อนดังกล่าวเป็น เงินบาทตั้งแต่ช่วงปลาย 4Q56 โดยเบื้องต้นบริษัทวางแผนออกหุ้นกู้ไม่เกิน 9 หมื่น (เรตติ้ง A+) ล้านบาท และจะทยอยเปลี่ยนเงินกู้ที่เหลือเป็นเงินบาทให้มากที่สุด เพื่อช่วยปิดสถานะความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนนับจากงวด 4Q56 เป็นต้นไป
แนวโน้มกำไร 2H56 จะต่ำกว่า 1H56 แต่ Norm profit ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว บวกกับบริษัทจะเริ่มรวมผลประกอบการของ MAKRO (ถือหุ้น 97.88%) เข้ามาในงบรวมของ CPALL ตั้งแต่ 2H56 ซึ่งในช่วงแรกกำไรของ MAKRO ยังน้อยกว่าภาระทางการเงินจากเงินกู้เพื่อซื้อ MAKRO ดังกล่าว ทำให้คาดกำไรงวด 2H56 จะต่ำกว่า 1H56 โดยเฉพาะงวด 3Q56 ที่จะเป็นจุดต่ำสุดของปี อย่างไรก็ตาม Norm profit งวด 3Q56 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะมีการใช้โปรโมชั่นแสตมป์ตั้งแต่ปลาย ก.ค. ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการไว้ โดยยังไม่ได้รวมผลของการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ในประมาณการเพื่อรอดูผลกระทบต่อไป
ปัจจัยพื้นฐานยังแกร่ง แม้จะมีปัจจัยกดดันชั่วคราว
แม้จะมีผลกระทบชั่วคราวจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกด้านปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และคาดปีหน้าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งกว่า 33% จึงยืนยัน “ซื้อลงทุน” (FV@B53) โดยแนะนำให้ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวล่าสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น