วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

TKรอฟื้นหลังผ่านช่วงตกต่ำ อัตราผลตอบแทนปันผล6%

TKรอฟื้นหลังผ่านช่วงตกต่ำ
อัตราผลตอบแทนปันผล6%

วันจันทร์ที่ 09 กันยายน 2556 เวลา 09:35:32 น. 
ผู้เข้าชม : 263 คน 

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” TK เป้าหมาย 17.72 บาท โดยระบุว่า ราคาหุ้นผ่านการปรับฐานแรงแล้ว ภาพรวมธุรกิจ 2H56 เริ่มกระเตื้องขึ้น Div yield กลับมาสูงจูงใจ 6%



ผ่านพ้นช่วงเลวร้ายสุดของปีไปแล้ว ภาพรวมธุรกิจ 2H56 เริ่มกระเตื้องขึ้น



ฝ่ายวิจัยได้รับทราบภาพรวมธุรกิจในช่วง 2H56 จากผู้บริหารของ TK ซึ่งเชื่อว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของกำไรไปแล้วตั้งแต่ช่วง 2Q56 แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มขึ้นของ NPL จะยังไม่ได้ถึงขั้นเลวร้ายมาก แต่เนื่องจากนโยบายการดำเนินธุรกิจที่ระมัดระวังมากของบริษัทฯ ทำให้ TK ตัดสินใจดำเนินการสำคัญๆ ในหลายประเด็นในช่วง 2Q56 เพื่อป้องกันความเสียหายไว้ล่วงหน้า ทั้งในเรื่องของการตั้งสำรองหนี้ฯ การตัดหนี้สูญ (เพื่อบริหารสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมไม่ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก

โดยล่าสุด NPL ยังอยู่ที่ราว 3.4% ของสินเชื่อรวม) และการเร่งขายรถยึด เพื่อลดผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วของราคารถที่ตกรุ่น เนื่องจากมีรถรุ่นใหม่ๆ ทยอยออกมามาก ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ยังทรงตัวสูงที่ Credit cost 111bp และการขาดทุนจากการขายรถยึดเพิ่มสูงขึ้นในงวดที่ผ่านมา ผนวกกับการแข่งขันในระบบที่ยังเป็นไปอย่างรุนแรง ทำให้บริษัทต้องกระตุ้นการขาย (สะท้อนได้จากการเติบโตของสินเชื่อสุทธิใน 1H56 ที่ยังเดินหน้าเติบโตถึง 5.7% จากสิ้นปี 2556 ยังสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งปี 2556 ที่ตั้งไว้ 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย ซึ่งได้แก่ ค่านายหน้าให้แก่ดีลเลอร์ ส่งผลให้สัดส่วน Cost to income ratio ใน 2Q56 พุ่งสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาถึง 59.4%

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มกระเตื้องขึ้นในช่วง 3Q56 แม้จะยังไม่กลับคืนสู่ภาวะปกติเช่นในปี 2555 แต่ TK ก็ได้ให้ความมั่นใจว่าความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูงเริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากได้กันสำรองหนี้ฯ ไว้มากในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งแนวโน้มการตัดหนี้สูญคาดว่าจะปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ ได้ดำเนินการไปในเชิงรุกมากแล้วในงวดก่อนหน้า ส่วนการเร่งขายรถยึดและการเพิ่มขึ้นของค่านายหน้าน่าจะยังเห็นต่อเนื่อง แต่คาดว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลายได้ในช่วง 4Q56

สำหรับแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศยังคงเดินหน้าไม่มีหยุดชะงักตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยบริษัทฯ ชี้แจงว่ายังอยู่ในระหว่างการรอใบอนุญาตโดยเน้นประเทศที่ยังมีศักยภาพการเติบโตของการใช้รถจักรยานยนต์ อาทิ อินโดนีเซีย และเวียดนามเป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในช่วง 1H57

คาดกำไร 3Q56 เริ่มกระเตื้อง…แนวโน้ม 4Q56 ไม่น่ากังวลแล้วเพราะเข้าช่วงฤดูกาลขาย

ฝ่ายวิจัยคาด TK จะมีกำไรสุทธิ 3Q56 เท่ากับ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 13.2% จากไตรมาสก่อนหน้า (แต่ยังหดตัว 40.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆ จากคาดการณ์การลดลงของค่าใช้จ่ายดำเนินงานใน 3Q56 ถึง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า (แต่ยังเพิ่มขึ้น 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) ส่วนใหญ่เป็นผลจากการตัดหนี้สูญที่ลดลงดังกล่าวข้างต้น สะท้อนได้จาก Cost to income ratio ใน 2Q56 ปรับตัวขึ้นมาที่ 59.4% จาก 45% ในงวดที่ผ่านมา

สำหรับคาดการณ์รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิใน 3Q56 ยังเห็นการเติบโตเล็กน้อย 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อสุทธิใน 3Q56 ที่ 2.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 13.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรวมแล้วคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อสุทธิใน 9M56 เพิ่มขึ้นมาที่ 8.4% จากสิ้นปี 2555 ยังสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งปี 2556 ที่บริษัทฯ ตั้งไว้ 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับคาดการณ์ยอดขายรถจักรยานยนต์รวมในประเทศในช่วง 9M56 ที่คาดไว้เพียงทรงตัวหรือหดตัวลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ NIM ใน 3Q56 เท่ากับ 28.13% หดตัวถึง 66bp จากงวดที่ผ่านมาจากคาดการณ์การลดลงของ Yield ของสินเชื่อใน 3Q56 ต่อเนื่องอีกถึง 58bp จากการแข่งขันในระบบที่เป็นไปอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 6bp มาที่ 3.97% ในงวดนี้จากการที่ TK ได้เพิ่มการใช้เงินกู้ระยะยาว ด้วยการออกหุ้นกู้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ มูลค่า 570 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.98% และใช้เงินกู้ยืมระยะยาว อายุ 3 ปี จากสถาบันการเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย4%) เพื่อลดความเสี่ยงหากอัตราดอกเบี้ยกลับทิศทางเป็นขาขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการใช้หนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ถึง 80% ของหนี้สินรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ยังทรงตัวที่ 1.50 เท่า

เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ราคาหุ้นผ่านการปรับฐานแรงแล้ว Div yield กลับมาสูงจูงใจ 6%

ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนเป็นซื้อ จากเดิมให้ถือรับปันผล โดยราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ผ่านการปรับฐานราคาลงมาแรงมาก จนทำให้คาดการณ์ Div yields เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาที่ 6-9% p.a. (จ่ายปีละครั้ง) และมี upside ระดับสูงเทียบกับ Fair value ปี 2556 ตามวิธี GGM คือ 17.72 บาท อิง PBV 2.2 เท่า อีกทั้งเริ่มเห็นปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นจากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรใน 3Q56 ที่ดีกว่าคาดเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น