BKDเทรดวันนี้
ลุ้นยืนเหนือจอง
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 25 กันยายน 2556 ผู้เข้าชม : 10 คน
"BKD" เทรดวันแรก ลุ้นยืนเหนือจอง 1.50 บาท พื้นฐานแกร่ง ราคาไอพีโอจูงใจให้ส่วนลด 40% ย้ำรายได้-กำไรโตต่อเนื่อง ปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ไร้กังวล “เสี่ยปู่” โผล่ถือหุ้น 2.86% เป็น 1 ใน 4 ผู้ถือหุ้นใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 25 กันยายน 2556 นักวิเคราะห์คาดการณ์ราคามีลุ้นยืนเหนือราคาหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 1.50 บาท ขณะที่ผู้บริหารมั่นใจพื้นฐานของบริษัท และการเติบโตของรายได้และกำไรดีต่อเนื่องมาตลอด เนื่องจากงานในมือ (backlog) ค่อนข้างมาก และราคาขาย IPO มีส่วนลดถึง 40% จาก P/E อุตสาหกรรมเดียวกัน
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการผู้จัดการ BKD เปิดเผยว่า มั่นใจว่าหุ้น BKD เข้าซื้อขายในวันนี้จะยืนเหนือราคาจองที่ 1.50 บาทได้ ขณะที่เชื่อว่าภาวะตลาดปัจจุบันไม่น่ากังวล ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากกระแสตอบรับในช่วงเปิดขายหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุนเล็งเห็นถึงศักยภาพในการประกอบธุรกิจที่ผ่านมาของ BKD ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าผู้บริหารและพนักงานของเราทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยกันผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง และหลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนเข้ามา จะทำให้ BKD มีศักยภาพและความแข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของการดำเนินธุรกิจและฐานะทางการเงิน และสามารถสนองตอบต่อการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังขยายตัว ซึ่งคาดว่า BKD จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้" นางนุชนารถ กล่าว
ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปี 2556 เติบโต 15% จากปี 2555 ที่มีรายได้กว่า 800 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกมีรายได้แล้ว 290.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 32.51 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือกว่า 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้บางส่วน ที่เหลือทยอยรับรู้ในปีนี้
สำหรับในไตรมาส 4/56 บริษัทเตรียมเข้าประมูลงาน มูลค่ากว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทหวังจะได้งานประมาณ 50% ของมูลค่างานทั้งหมด คาดว่าจะรู้ผลประมาณเดือนพ.ย. 56
ส่วนกรณีที่ นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ มีสัดส่วนการถือหุ้น BKD หลังการขาย IPO จำนวน 20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนที่ 2.86% ซึ่งทำให้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 1 ใน 4 ของบริษัทมองว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากบริษัทได้รับความมั่นใจว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และจะสร้างผลประกอบการที่ดีได้ รวมถึงเชื่อว่าการเข้าถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าวจะเป็นการถือเพื่อลงลทุนในระยะยาว
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวรัตนสุวรรณชาติ ถือหุ้น 73.57% นายอรรณพ ลิ้มประเสริฐ ถือหุ้น 2.86% นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ถือหุ้น 2.86% และนางวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ถือหุ้น 2.86%
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยประเมินราคาที่เหมาะสม (Fair Value) ของ BKD โดยอิงที่ PER ปี 2556 ที่ระดับ 12-14 เท่า ต่ำกว่าบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์อย่างครบวงจรขนาดใหญ่อย่าง MODERN ที่ปัจจุบันเทรดด้วยระดับราคาที่ PER 17.7 เท่า เนื่องจากมูลค่าตลาดที่เล็กกว่ามาก จะให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมของ BKD ในปี 2556 อยู่ในช่วง 1.63-1.90 บาท โดย Fair Value ดังกล่าว เทียบเท่า PBV ที่ 1.73-2.02 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ 1.54 เท่า และคาดว่า BKD จะมีการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการปี 2556 ที่หุ้นละ 0.05 บาท (Dividend Payout Ratio 40%)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น