TTAเด่นสุดหุ้นเดินเรือ
กูรูเชียร์ซื้อเป้า23บาท
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 09 กันยายน 2556 ผู้เข้าชม : 6 คน
"กูรู" แนะซื้อ TTA ให้ราคาพื้นฐานที่เหมาะสม 23 บาท คาดผลประกอบการเริ่มฟื้นตัว รับดัชนีอัตราค่าระวางเรือ (BDI) ปรับตัวสูงขึ้น หลังจีน-อินเดียเล็งนำเข้าถ่านหินใหม่เข้ามาเติมในคลังสินค้า ส่งผลให้มีดีมานด์ใช้งานเรือขนส่งมากขึ้น
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS กล่าวว่า สาเหตุราคาหุ้นในกลุ่มขนส่งทางเรือปรับตัวขึ้นมาทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุน ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรในดัชนีอัตราค่าระวางเรือ (BDI) ที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,279 จุด โดยดัชนี BDI ที่ปรับตัวขึ้นมานั้นเป็นเพราะประเทศจีนและอินเดีย ช่วงนี้มีความต้องการนำเข้าถ่านหินใหม่เข้ามาเติมในคลังสินค้า (Restock) ส่งผลให้ความต้องการใช้งานเรือในภาคขนส่งมีเข้ามามาก
โดยดัชนี BDI ถ้านับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาแล้วมากถึง 83% โดยเฉพาะสัปดาห์ที่แล้วดัชนีค่อนข้างปรับตัวขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นมาของดัชนี อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมานั้นเป็นผลดีเฉพาะภาคธุรกิจเรือขนส่งขนาดใหญ่ (Capesize) ที่ค่าระวางเรือโตขึ้นมามากถึง 13% แต่เรือขนาดกลาง (Supramax) ค่าระวางเรือปรับขึ้นมาน้อยเพียง 0-1.3%
“สัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้นในกลุ่มขนส่งทางเรือปรับตัวขึ้นมาทั้งกลุ่ม เป็นผลมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนในดัชนี BDI ซึ่งปรับตัวขึ้น ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าค่าระวางเรือของบริษัทในกลุ่มขนส่งทางเรือจะดีขึ้น ขนาดหุ้นของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA และบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ซึ่งมีกองเรือหลักเป็นขนาด Supramax ที่ได้รับประโยชน์น้อยที่สุดจากดัชนี BDI ที่ปรับตัวขึ้น ยังมีราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มเลยทีเดียว” นักวิเคราะห์กล่าว
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย. 2556 ดัชนี BDI ขึ้นมาเกือบ 5.27% วันถัดไปก่อนหน้านั้นก็ขึ้นมาเกือบ 4% ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มขนส่งทางเรือ เพราะมองว่าค่าระวางเรือจะปรับขึ้นตามดัชนี BDI ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในภาคธุรกิจนี้ได้รับประโยชน์ โดยแนะนำให้ลงทุนซื้อหุ้นในกลุ่มนี้มีเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่ง “ซื้อลงทุนระยะยาว" ให้ราคาพื้นฐานที่เหมาะสมไว้ที่ 23 บาท
ขณะที่คาดผลการดำเนินงานปกติของ TTAในงวดไตรมาส 4/56 ของงบปีบริษัท (ก.ค-ก.ย. 2556) จะยังคงมีกำไรต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าไตรมาส 3/56 ของงบปีบริษัทที่มีกำไรปกติ 148 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับผลบวกจากธุรกิจเมอร์เมดที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะทำให้ได้ประโยชน์จากอัตราการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์สูงขึ้น และค่าเช่าเรือที่สูงขึ้น
อีกทั้งประเมินผลประกอบการของ TTA ในปีงบประมาณ 2556 (ต.ค. 2555-ก.ย. 2556) บริษัทจะมีผลขาดทุนสุทธิราว 516 ล้านบาท และขาดทุนปกติที่ 189 ล้านบาท ดีกว่างบปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิราว 4,619 ล้านบาท และขาดทุนปกติ 341 ล้านบาท ส่วนในงบปีหน้า 2557 (ต.ค. 2556-ก.ย. 2557) นักวิเคราะห์คาดว่า TTA จะสามารถพลิกเป็นกำไรได้ราว 500 ล้านบาท โดยยังคงได้ผลบวกจากธุรกิจเมอร์เมดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาก ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังประเมินว่า แม้ดัชนี BDI จะปรับตัวขึ้นมา แต่ความต้องการเรือในภาคขนส่งยังมีน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับกองเรือ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นมา แม้ไม่สูงมากเทียบกับในอดีตหลายปีก่อน โดยมองว่าปีหน้าธุรกิจขนส่งทางเรือ จะเริ่มฟื้นตัวจากแนวโน้มของความต้องการใช้งานเรือในภาคขนส่งที่น่าจะมากกว่ากองเรือที่มีอยู่ในระบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น