LPNขยับยอดขาย2.4หมื่นล้าน
บริษัทจดทะเบียน วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 ผู้เข้าชม : 4 คน
"แอลพีเอ็น" ปรับเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มเป็น 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท หลัง 8 เดือนแรกโกยยอดขายแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" ไว้ 40% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด 7,000 ล้านบาท คาดเปิดขายวันแรก 12 ต.ค.นี้ พร้อมเลื่อนเปิด 5 โครงการใหม่ไปเป็นปีหน้า
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผูจัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า บริษัทปรับเป้ายอดขาย (พรีเซล) ปีนี้เพิ่มเป็น 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้วกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท และบริษัทจะมีการเปิดขายโครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 มูลค่า 7,000 ล้านบาท ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมียอดขาย 40% ประมาณ 4,000 ยูนิต จากทั้งหมด 1 หมื่นยูนิต
นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการเปิดตัวใหม่อีก 1 โครงการ ย่านสุขุมวิท 24 มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นคอนโดมิเนียมลักชัวร์รี่ สูงกว่า 40 ชั้น จํานวน 1 อาคาร ขนาด 26-100 ตารางเมตรขึ้นไป รวม 350 ยูนิต ราคาประมาณ 1.5 แสนบาท/ตารางเมตร หรือ 3 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ จากการปรับยอดขายดังกล่าว ทำให้บริษัทเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้ออกไปเปิดในปีหน้า 5 โครงการ จากเดิมที่มีแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 10-13 โครงการ
"สาเหตุที่เราเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไปเปิดในปีหน้า 5 โครงการ เพราะดูจากยอดขายปีนี้ที่คาดว่าจะเกินเป้าไปอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท และยังเหลือการขายอีก 2 โครงการที่จะเปิดปลายปีนี้ที่จะช่วยสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นอีก" นายโอภาส กล่าว
นายโอภาส กล่าวต่อว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทำได้แล้วกว่า 6,200 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นไตรมาส 3/56 รายได้จะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับโครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น จำนวน 50 อาคาร รวม 10,000 ยูนิต มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เฟสแรกเป็นคอนโดมิเนียม จํานวน 14 อาคาร ขนาด 21.5-26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 6.3-9.7 แสนบาท/ยูนิต จํานวน 4,800 ยูนิต มูลค่า 2,800 ล้านบาท โดยเปิดการขายในวันที่ 12 ต.ค. 56 คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน ขณะที่ตั้งเป้าจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จไม่เกินปี 2558
"เรามีความต้องการทำเลรังสิตมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่หาที่ดินค่อนข้างยาก เนื่องจากผังเมืองส่วนใหญ่เป็นสีม่วง ที่ใช้สำหรับทำโรงงาน พอเห็นที่ดินแปลงนี้เลยตัดสินใจซื้อทันทีในราคาไร่ละประมาณ 6 ล้านบาท เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ และการเดินทางสะดวก" นายโอภาส กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น