เฟดจะยังคงดอกเบี้ยใกล้ศูนย์อีกนาน
ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 ผู้เข้าชม : 11 คน
รอยเตอร์ – มีการคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มถอนทัพออกจากนโยบายเงินที่ใจดีเป็นพิเศษในวันพุธนี้ (18 ก.ย.) โดยจะประกาศลดการซื้อพันธบัตรขนาดเล็ก ในขณะเดียวกันจะย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ใกล้ศูนย์ไปอีกนาน
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะลดขนาดในการซื้อพันธบัตรประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เฟดซื้อพันธบัตรเหลือแค่ 75,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และจะส่งสัญญาณยุติการขยายนโยบายเงินที่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน
คาร์ล แทนเนบาอุม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของนอร์ธเทิร์น ทรัสต์ ในชิคาโก กล่าวว่า เป็นหลักไมล์ที่สำคัญเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน เมื่อเฟดเริ่มขยายงบดุล และนี่กำลังจะเป็นก้าวแรกในการเดินทางที่มีแนวโน้มว่าจะนานมาก
เฟดจะประกาศการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายเงินหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมเป็นเวลา 2 วัน ในเวลา 01.00 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาในประเทศไทย และเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ จะแถลงข่าวในเวลาครึ่งชั่วโมงต่อมา และจะเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยและเศรษฐกิจรายไตรมาสใหม่ด้วย
เมื่อตอนที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยชั่วข้ามคืนเหลือศูนย์เมื่อปลายปี 2551 เฟดได้ทำแคมเปญที่กล้าหาญเป็นพิเศษเพื่อหนุนเศรษฐกิจสหรัฐ ความพยายามดังกล่าวของเฟดรวมถึงการซื้อพันธบัตรสามรอบที่ทำให้งบดุลของเฟดเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า เป็นประมาณ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์
การดำเนินการของเฟดได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากผู้ที่กลัวว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้เกิดฟองสบู่สินทรัพย์หรือกระตุ้นเงินเฟ้อ แต่การแสดงพลังของธนาคารกลางสหรัฐได้รับการยกย่องว่าได้ช่วยเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกให้พ้นจากชะตากรรมที่เลวร้ายมาก
เนื่องจากในขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐค่อนข้างจะคงที่ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวและการว่างงานลดลง ผู้กำหนดนโยบายได้กล่าวว่า ใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรและตั้งเป้าที่จะยุติโครงการประมาณกลางปี 2547
ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยจำนองและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ปรับตัวขึ้นเพราะคาดว่าเฟดจะเริ่มอุดหนุนน้อยลง ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงขยายงบดุลอีกหลายปีในขณะที่พยายามจะเลิกอุดหนุนเศรษฐกิจและตลาดการเงินจากมาตรการกระตุ้นที่เคยทำ
มีการคาดการณ์ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ จะสนับสนุนให้ธนาคารกลางให้คำมั่นว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์อีกเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นหนทางที่จะบรรเทาความวิตกใดๆ ที่ตลาดพันธบัตรอาจจะรู้สึกได้
การชี้นำอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้ามีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมในระยะยาว ภารกิจนี้อาจจะง่ายขึ้นหลังจากที่ ลอเรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลัง ถอนตัวออกจากการแข่งขันที่จะเข้าไปรับตำแหน่งแทนเบอร์นันเก้เมื่อครบวาระลงในวันที่ 31 มกราคมนี้ ซึ่งทำให้ เจเน็ต เยลเล็น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐในขณะนี้ได้เป็นตัวเต็ง
หากประธานาธิบดี บารัค โอบามา และวุฒิสภายืนยันให้เยลเล็นเป็นประธานเฟด ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่า เธอจะยังคงดำเนินนโยบายที่เฟดในสมัยเบอร์นันเก้ได้ทำไว้ แต่นักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์มีความมั่นใจเกี่ยวกับนโยบายเฟดน้อยกว่าหากซัมเมอร์สเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ
เฟดได้กล่าวว่า จะไม่เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยจนกว่าอัตราการว่างงานจะเหลือ 6.5% โดยมีเงื่อนไขว่าเงินเฟ้อไม่เกิน 2.5% และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 7.3% ในเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ดี ผลตอบแทนพันธบัตรอายุไถ่ถอน 10 ปีได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% นับตั้งแต่เบอร์นันเก้เริ่มพูดถึงการลดโครงการซื้อพันธบัตร ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนได้คาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในชั่วข้ามคืนแล้ว
นักวิเคราะห์บางคนสงสัยว่าเฟดอาจจะพยายามส่งสารในประเทศว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงต่ำลงเป็นเวลานานด้วยการลดเกณฑ์การว่างงานให้เหลือ 6%
อย่างไรก็ดี มันอาจยากสำหรับเบอร์นันเก้ที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอจากสมาชิกคนอื่นๆ ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายเงินสำหรับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
“พวกเขาจะลังเลที่จะทำการชี้นำใดๆ ที่มีความชัดเจนมากขึ้น และคงไม่สามารถบอกได้มากเกี่ยวกับหนึ่งปีครึ่งจากนี้ไป” ดีน มากิ นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของบาร์เคลย์ส์ แคปิตอล กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น