วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

'บ้านปู'ฮอตรับพาร์ใหม่ วางราคาพื้นฐาน35บาท ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556

'บ้านปู'ฮอตรับพาร์ใหม่
วางราคาพื้นฐาน35บาท

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 
ผู้เข้าชม : 11 คน 

BANPU หุ้นร้อนรับเทรดพาร์ใหม่ 1 บาท วงการเงินประเมินราคาพื้นฐาน 35 บาท อัพไซด์หุ้นเพียบ 16% ชี้สถานะการเงิน-การชำระหนี้บ้านปูไร้ปัญหา แม้มูดี้ส์กังวลศักยภาพธุรกิจถ่านหินในเอเชียแปซิฟิก
                   นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับราคาเป้าหมายของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ซึ่งในวันนี้ (26 ก.ย.) จะเริ่มดำเนินการแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ได้กำหนดราคาเป้าหมายของปี 2557 ไว้ที่ระดับ 35 บาท พร้อมกับคงคำแนะนำ “ซื้อ”
                  โดยคาดผลการดำเนินงานงวดปี 2556 มีรายได้อยู่ที่ 105,427 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 4,459 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 117,337 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9,293 ล้านบาท ส่วนงวดปี 2557 ได้คาดรายได้ 109,378 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,413 ล้านบาท
                   ส่วนกรณีมูดี้ส์ได้ออกรายงานแสดงความกังวลต่อผู้ประกอบการถ่านหินในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกว่าอาจจะประสบปัญหาสภาพคล่องและความสามารถชำระหนี้ รวมถึงมีมุมมองราคาถ่านหิน Newcastle Thermal coal จะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 80-85 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2557 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐต่อตัน
                   อีกทั้งได้แสดงความกังวลต่อสถานะทางการเงินของ Hilidi Industry และ Bumi Resouces ซึ่งเป็นผู้ประกอบการถ่านหินรายใหญ่ของอินโดนีเซีย แต่หากพิจารณาฐานะทางการเงินของ BANPU แล้ว ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าอยู่ในระดับปานกลาง และยังมีความสามารถในการชำระหนี้ได้
                  โดยแม้ว่าอัตราส่วน Interest Bearing Debt/EBITDA คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.8 เท่าในปี 2557 จากเดิมที่อยู่ในระดับต่ำที่ 3.4 เท่าในปี 2555 แต่อัตราส่วน Net Interest Bearing Debt/Equity ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.74 เท่าในปีนี้ และเพิ่มเป็น 0.84 เท่าในปีหน้า รวมถึงยังมีเงินปันผลที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าซึ่งจะช่วยเสริมสภาพล่อง โดย BANPU ได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก TRIS Rating ที่ AA- แนวโน้ม Stable ในช่วงวันที่ 27 มิ.ย. 2556
                 สำหรับราคาถ่านหินอ้างอิง BJI ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 79 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุนของผู้ประกอบการถ่านหินคิดเป็น Percentile ที่ 75 ในขณะที่ BANPU มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำอยู่ในระดับปานกลาง (Percentile ที่ระดับ 50) ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันผู้ประกอบการต้นทุนสูงเริ่มหยุดการผลิตในบางเหมืองแล้ว แต่ผู้ผลิตต้นทุนต่ำกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรักษากระแสเงินสด ซึ่งในส่วนของ BANPU จะเพิ่มปริมาณผลิตในปีหน้าอีก 3.4% เป็น 30 ล้านตัน จากระดับ 29 ล้านตันในปีนี้
                อย่างไรก็ตาม ราคาถ่านหินได้อยู่ในช่วงฟื้นตัวและมี downside จำกัดแล้ว ซึ่งปัจจุบันราคาที่ถ่านหินอ้างอิง BJI อยู่ที่ 79 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 8.1% จากราคาเฉลี่ย 86 เหรียญสหรัฐต่อตันในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียของ BANPU ที่ระดับ 63 เหรียญสหรัฐต่อตัน รวมถึงคาดจะเห็นการฟื้นตัวของราคาถ่านหินได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2556 โดยปัจจุบันทางบริษัทยังคงใช้กลยุทธ์การลดการลงทุนและลดต้นทุนการผลิต
               ทั้งนี้ ราคาหุ้น BANPU ปิดการซื้อขายล่าสุดในวานนี้ (25 ก.ย.) ที่ระดับ 300 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 7 บาท หรือคิดเป็น 2.39% ทำราคาสูงสุด 300 บาท และราคาต่ำสุด 292 บาท ซึ่งราคาปิดที่จำนวน 300 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นราคาใหม่ในพื้นฐานพาร์ 1 บาท เท่ากับ 30 บาทต่อหุ้น และยังคงมีอัพไซด์จำนวน 16% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายหลังแตกพาร์ 35 บาท
               ด้านนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU ได้กล่าวในช่วงที่ผ่านมาว่า กรณีทางบอร์ดบริษัทได้มีมติแตกพาร์ถือเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัทและสอดคล้องต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการแตกพาร์ยังนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่บริษัทนำมาใช้เพิ่มเติมได้ รวมถึงการแตกพาร์จะไม่ทำให้มุมมองการลงทุนของกลุ่มสถาบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะนักลงทุนสถาบันจะเน้นมองในแง่พื้นฐานบริษัทเป็นหลัก
               ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2556 ทางบริษัทจะยังคงสามารถทำรายได้อยู่ที่ระดับ 1.1 แสนล้านบาท หรือเท่ากับประมาณกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทรงตัวต่ออยู่ในระดับใกล้เคียงกับงวดปี 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น