วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โบรกแนะเลือกซื้อ 7 บจ.โดดเด่น

โบรกแนะเลือกซื้อ 7 บจ.โดดเด่น
ดัชนีฟื้นตัว บาทแข็ง เน้นปันผลดี พี/อีต่ำ เปิด8หุ้นเด้งแรง

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2556 เวลา 09:52:25 น.
ผู้เข้าชม : 6327 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30.57 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นกลับถ้วนหน้า โดยเฉพาะตลาดที่ปรับลงแรงก่อนหน้า ทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว หลังร่วงยาวกว่า 300 จุดใน 1 เดือน เน้นหุ้นที่ฟื้นตัวเร็วกว่าตลาดรวม อัพไซด์สูง ปันผลดี พี/อี ต่ำ ไม่ไล่ราคาหุ้นที่เปิดกระโดด เลือกซื้อ 7 หุ้นเด่น ได้แก่ ITD, STEC, ROBINS, QH, INTUCH, AI, THAI และบล.ไทยพาณิชย์เปิด 8 หุ้นเด้งแรงและเร็ว ได้แก่ INTUCH THCOM KTB SIRI QH CK BTS และ THAI


บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SET น่าจะฟื้นตัว หลัง SET ตกต่ำเกือบ 300 จุด ภายใน 1 เดือน และต่างชาติชะลอการขายหุ้นไทยกลยุทธ์การลงทุนยังให้สะสมหุ้น 40% ของพอร์ต วันนี้เลือก ITD (FV@B8.6) และ STEC (FV@B31.65) เป็น Top picks เนื่องจากมีค่า high beta 2.3 และ 1.8 น่าจะฟื้นตัวมากสุดในภาวะตลาดวันนี้
บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดแก็ปลงลึกกว่า 80 จุด ในช่วงเช้า ลงไปเกือบถึง 1350 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายมาปิด 1,403.07 จุด ลบไปเพียง 30 จุด บรรยากาศลงทุนในภูมิภาคดูฟื้นตัวหลังข้อมูลค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานฯสหรัฐออกมาดีกว่าคาด หนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 180 จุด
SET มีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อจากช่วงบ่ายวานนี้ หลังต่างชาติชะลอการขายโดยกลับมาอยู่ด้านซื้อสุทธิ 1.4 พันลบ. เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ แต่ยังถือสถานะด้านขายสุทธิในตลาดอนุพันธ์ราว 118 สัญญา คาดตลาดยังเปราะบาง จึงมีความผันผวนมากจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องกรอบการถอนมาตรการ QE ดังนั้น การปรับขึ้นน่าจะยังจำกัดแถว 1420-1440 ก่อน
แนวต้าน : 1422-1440 แนวรับ : 1390-1360
พอร์ตระยะสั้น : หุ้น 25% เงินสด 75%
• หุ้นถือต่อในพอร์ต (ราคาเป้าหมายระยะสั้น) QTC (5.90)
• หุ้นแนะนำเพิ่ม (ราคาเป้าหมายระยะสั้น)
ROBINS (73) น่าเริ่มมีแรงซื้อ Cover short หลังตลาดดีดกลับ คาดหมายกำไรเฉลี่ยปี 56-58 ราว 23%
QH (3.50) ยอดจองดี คาดงบฯ 2Q ดีทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาน่าสนใจ ซื้อขายใกล้ 10x P/E เทียบอดีต 13x
• หุ้นที่ปรับออก DELTA ทำกำไร ~13.64% TKS ตัดขาดทุนระหว่างวัน 5%
บล.ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 มิ.ย.) ว่า จากพื้นฐานที่น่าดึงดูด ด้วย PER ระดับเพียง 12.50X เมื่อหลุด 1375 จุดลงมา สุดท้ายต่างชาติทนไม่ไหวเข้าซื้อกลับ ดัน SET ฟื้นตัวปิดเหนือ 1400 จุด ขณะที่ วันนี้ การรีบาวน์น่าจะเกิดขึ้นต่อ แต่อาจมีแรงขายสลับตามรายทาง แนวต้านมีที่ 1465 และ 1500 จุด นักเก็งกำไรจะยังไม่ถือหุ้นนาน เรามองฝรั่งยังไม่ไล่ราคากลับ จนกว่าสถานะ Short ที่ค้างไว้จะปิดหมด ส่วนนักลงทุนเข้าซื้อตามแนวรับเช่นเดิม โดยช่วงนี้จะอยู่ที่ 1375 และลึกกว่านั้นที่ 1320-1300 จุด ต้องไม่พลาด หุ้นแนะนำวันนี้ ลงแรง ย่อมเด้งแรง ได้แก่ INTUCH THCOM KTB SIRI QH CK BTS และ THAI
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 มิ.ย.) ว่า ดัชนีรีบาวด์ ซื้อเก็งกำไรสั้น หรือทยอยสะสมเพื่อระยะกลาง โดย 
KGI ประเมิน SET วันศุกร์ฟื้นตัว หลังต่างชาติทำเซอร์ไพรส์กลับมาซื้อสุทธิ หนุนความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง ผนวกกับ SET ลงมาซื้อขายที่ค่า PE 12.6 เท่า เทียบเท่ากับช่วงที่สหรัฐฯ หยุดมาตรการ QE2 ในปี 2554 ขณะที่ยอดสะสมต่างชาติจากปี 2555 แทบไม่เหลือแล้ว ส่งผลให้จิตวิทยาตลาดหุ้นดีขึ้น ด้านหุ้นสหรัฐฯ บวกแรง ดูเหมือนตลาดรับรู้ความเสี่ยงเฟดชะลอ QE ไปมากแล้วและเลือกที่จะตอบสนองเชิงบวกต่อตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ที่ดี และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงกว่าคาดภาพรวมตลาดยังผันผวน รอผลประชุมเฟดวันที่ 18-19 พ.ค. เพื่อชี้ทิศทาง QE กลยุทธ์: ซื้อเก็งกำไรสั้น(ต้องพร้อมขายหาก SET พลิกมาลบ) หรือทยอยสะสมหุ้นเพื่อระยะกลางได้หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไรสั้นลุ้นรีบาวด์ INTUCH*, QH / สะสม AI
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ต่างชาติเริ่มชะลอการขาย ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ต้องรอความชัดเจนก่อน! 
กลยุทธ์ : จากการประเมินแนวโน้ม SET เทียบกับอดีต ทำให้คาดว่า Downside ของการปรับลงน่าจะเริ่มเหลือน้อยแล้ว ดังนั้นส่วนที่ซื้อไปแล้ว เราจึงยังแนะนำให้เน้นเป็นถือไว้ก่อนเช่นเดิม แต่ส่วนที่จะซื้อเพิ่มยังอาจจะรอดูความชัดเจนของแรงขายต่างชาติก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค  INTUCH, QH, THCOM (SBL)
แนวโน้ม บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ดูสดใสขึ้นมาได้บ้าง หลังตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มกลับมาบวกกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นที่วันก่อนปรับตัวลงแรงและตลาดหุ้นในเอเชียอื่นๆ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐที่ช่วยบรรเทาปัจจัยลบจากการที่ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกปีนี้ลง ซึ่งจากการปรับตัวลงแรงของ SET ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ FSS ลองประเมินโอกาสของการปรับลงของตลาดว่าจะสิ้นสุดลงที่ใดด้วยการย้อนไปดูข้อมูลการปรับตัวลงรุนแรงของ SET ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าที่ตลาดลงแรงสุดจะอยู่ในช่วงเดือน ก.ย.2011 ซึ่ง SET ปรับลงถึง 21% จาก  peak โดยกินเวลา 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบเคียงว่ารอบนี้จะอยู่ในลักษณะเดียวกัน
ดังนั้น SET ก็น่าจะปรับตัวลงจากระดับปิดสูงสุดที่ 1,643 จุด มาที่ 1,298-1,303 จุด และระยะเวลา 3 เดือนของการปรับตัวลงจะอยู่ที่เดือน มิ.ย.นี้ โดยที่ระดับ 1,300 จุด จะคิดเป็น Forward PE 12 เท่าปีนี้ และ 10.5 เท่าปีหน้า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนแล้ว ทำให้เราคาดว่า Downside ของ SET น่าจะเริ่มเหลือน้อย แนวรับ  1400 , 1390-1380 , 1370  จุด แนวต้าน 1412-1422 , 1430-1440 จุด
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปฟื้นกลับมาเสมอตัว หลังลบเพราะธนาคารโลกปรับคาดการณ์ GDP โลกลงเหลือ 2.2% จาก 2.4% แต่ยอดการขอรับสวัสดิการว่างงานที่น้อยกว่าคาด รวมถึงยอดค้าปลีกที่พ.ค.เติบโตขึ้น 0.6% (จากตลาดคาด 0.4%) ทำให้ตลาดหุ้นในซีกโลกตะวันตกดีขึ้น รวมถึงทำให้หุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ จะเห็นว่าตรรกะของตลาดทุนโลกเอาแน่เอานอนไม่ได้ระหว่างตัวเลขเศรษฐกิจดี-เลว และความกังวลเฟดจะเลิก QE ซึ่งปริศนาดังกล่าวจะคลี่คลายในการแถลงของเบอร์นันเก้ 19 มิ.ย.นี้ ซึ่งเรามองว่าเฟดจะยังไม่เลิกมาตรการผ่อนคลายในปีนี้ อย่างไรก็ตามความกังวลในประเด็นสภาพคล่องหาย ซึ่งทำให้นักลงทุนให้พรีเมียมหุ้นลดลง (หรือเกิด de-rating) อาจกดดันให้ตลาดในช่วง 2 เดือนนี้ ซื้อขายอยู่ในกรอบ 11-12x PER (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 13x) หรือเทียบเท่าระดับดัชนีที่ 1300-1500 จุด โดยประมาณ
กลยุทธ์ในช่วงรอเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกฟื้นจึงเป็นการซื้อขายในกรอบ (trading range) ระหว่างที่รอปัจจัยตลาดที่ดีขึ้น การลงทุนในช่วงนี้เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ PERต่ำ ปันผลดี ปัจจัยอื่น / BDI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26 จุด เพิ่มขึ้น 6 วันต่อเนื่องและปรับขึ้นแรงเป็นวันที่ 3 ซึ่งอาจดึงหุ้นกลุ่มเดินเรือขึ้นในช่วงสั้น
กลยุทธ์การลงทุน: “อย่าไล่ราคา“ให้ระวังว่าการปรับขึ้นแรงมักเกิดในวันแรกของการฟื้นตัว เนื่องจากแรงซื้อ cover short ของนักลงทุนที่ขายไปก่อนหน้า ซึ่งอาจจะต่อเนื่องได้ 1-2 วัน แต่การขึ้นต่อเรามองการฟื้นช่วงสั้นจำกัด โดยเฉพาะในระดับใกล้ 1500 จุด ในเชิงกลยุทธ์ 1450-1470 เป็นจังหวะแบ่งขายสำหรับคนที่เสี่ยงซื้อไว้ หรือจุดแบ่งคัทสำหรับคนที่ติดอยู่เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การเข้าเทรดเลี่ยงหุ้นเปิดโดด หุ้นแนะนำ INTUCH THAI
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: คงน้ำหนักการลงทุนที่ 60% หลังลดไป 20% ใน 2 ครั้ง (22 ก.พ. และ 20 มี.ค.) และเราอยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นเร็วๆ นี้ โดยให้น้ำหนักกับการกลับมาอ่อนตัวอย่างจริงจังของเงินเยน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น