ตลาดหุ้นเอเชียผิดหวัง’บีโอเจ’

ต่างประเทศ วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

วอลล์สตรีท เจอร์นัล - ธนาคารกลางญี่ปุ่นสร้างความผิดหวังให้ตลาดที่ไม่มีมาตรการใดๆเพิ่มอีกหลังการประชุมเมื่อวานนี้   ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หุ้นญี่ปุ่นจึงดิ่งแรงอีกครั้ง และกระทบไปยังตลาดอื่นๆในเอเชียและในยุโรปเมื่อเปิดการซื้อขายตามมา ในขณะเดียวกันเอสแอนด์พี อัพเกรดแนวโน้มสหรัฐขึ้นในชั่วข้ามคืน 

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินในเอเชีย หลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ อัพเกรดแนวโน้มอันดับของสหรัฐจากติดลบเป็นมีเสถียรภาพเมื่อวันจันทร์ โดยอ้างเหตุผลว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

ค่าเงินดอลลาร์ทำนิวไฮของปี 2556เมื่อเทียบกับเงินเปโซของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีการซื้อขายกันที่ประมาณ 43.23 เปโซต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เงินเยนดันเงินดอลลาร์กลับหลังจากที่การประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นสร้างความผิดหวังให้กับตลาดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ขยายปฏิบัติการป้อนเงินราคาถูก

ดอลลาร์อ่อนตัวลงอย่างรุนแรงหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศการตัดสินใจ โดยมีการซื้อขายกันที่ 98.15 เยน จาก 98.74 เยนเมื่อคืนวันจันทร์ในตลาดนิวยอร์ก

หุ้นญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาในทางลบต่อการแข็งค่าของเงินเยน ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 1.5% ปิดที่ระดับ 13,317.62 จุด โดยหุ้นซอฟต์แบงก์ปรับตัวลง 0.4% หลังจากที่บริษัทตกลงเพิ่มราคาในการเสนอซื้อสปรินท์ เน็กซ์เทล คอร์ป เป็น 21,600 ล้านดอลลาร์ จาก 20,100 ล้านดอลลาร์

หุ้นโอลิมปัส คอร์ป ดีดตัวขึ้น 3.6% หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวประกาศว่า จะยกเลิกประกาศเตือนที่ได้ระบุว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ต้องระมัดระวัง  การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นเกือบปีครึ่งหลังจากมีการออกคำเตือนเพราะบริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมภายใน

ดัชนีคอสปิเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 0.62% ปิดที่ 1920.68 จุด โดยหุ้นซัมซุง อิเล็กโทรนิคส์ ปรับตัวลงถึง 2.5% เมื่อมีความวิตกว่า สมาร์ทโฟน กาแลกซี่ เอส 4 อาจจะไม่ขายดีตามที่คาด

มีแรงเทขายอย่างหนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน โดยเฉพาะตลาดฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียถูกทุบหนักเป็นพิเศษ  ดัชนีพีเอสอี ปรับตัวลง 4.64% ขณะที่ดัชนีจาการ์ต้า คอมโพสิต ปรับตัวลง 4.16%    ตลาดหุ้นเหล่านี้ได้รับแรงกดดันในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้เนื่องจากมีความวิตกที่มีการประเมินมูลค่าสูงและนักลงทุนต่างชาติถอนเงินออกจึงทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมาก

ตลาดออสเตรเลียเริ่มการซื้อขายอีกครั้งเมื่อวานนี้หลังปิดทำการในวันจันทร์ จึงได้มีโอกาสเป็นครั้งแรกที่จะแสดงปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลต่อการซื้อขายในวันจันทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่ดีกว่าคาด และข้อมูลเศรษฐกิจที่สร้างความผิดหวังของจีน ดัชนีS&P/ASX 200 จึงปิดเพิ่มขึ้น 0.4%

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงเจอแรงเทขายต่อเนื่องจนเปิดการซื้อขายในยุโรป โดยลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 โดยอยู่ที่ 0.9338 ดอลลาร์สหรัฐ  ที่เป็นเช่นนั้นเพราะการเติบโตของเงินกู้เคหะต่ำกว่าคาดมากและโกลด์แมน แซคส์ได้ออกมาเตือนว่า ประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ตลาดหุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุด 3 วัน แต่บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงยังคงได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ดีเมื่อสุดสัปดาห์  ดัชนีฮั่งเส็งจึงปรับตัวลง 1.2%

ความวิตกเกี่ยวกับการเติบโตที่ลดลงของจีน และการเริ่มไต่สวนของศาลสูงสุดในเยอรมนีเกี่ยวกับความชอบธรรมตามกฏหมายของโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป ก็ทำให้นักลงทุนอยู่ในอารมณ์ที่ระมัดระวัง

ไมค์ อินแกรม นักวิเคราะห์ตลาดของบีจีซี พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า หลายสัญญาณที่ออกมาจากบีโอเจเมื่อเร็วๆนี้ได้สร้างความสับสนให้กับตลาด และทำให้เกิดความผันผวนมากเกินไปในตลาดพันธบัตร และส่งผลกระทบตลาดหุ้น

ความผิดหวังต่อการตัดสินใจของบีโอเจ ทำให้ดัชนี เอฟทีเอสอี เอเชียแปซิฟิก ปรับตัวลง 0.7% อยู่ที่ 253.17 จุด ใกล้จะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนอีกครั้ง