วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556

"เอ็น-พาร์ค" ประกาศลุยธุรกิจ ทั้งเทกโอเวอร์-ลงทุนใหม่ ลั่นล้างขาดทุนสะสมใน 2 ปี

ชื่อ:  ดาวน์โหลด.jpg
ครั้ง: 1142
ขนาด:  5.8 กิโลไบต์

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เอ็น-พาร์คประกาศเดินหน้าธุรกิจ หลัง"ประชา มาลีนนท์"เข้าถือหุ้นใหญ่ วางแผนล้างขาดทุนสะสมให้หมดภายใน 2 ปี เล็งเทกโอเวอร์ โรงแรมเซ็นทาราฯขอนแก่น ลุยลงทุนบ้านหรู-คอนโดฯ คาดปีนี้มีรายได้พันล้าน อ้อนธนารักษ์ต่อสัญญาเช่าร้อยชักสาม

นายนคร ลักษณกาญจน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือเอ็น-พาร์ค เปิดเผยว่า หลังจากนายประชา มาลีนนท์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัทประมาณ 24.50% หรือจำนวน 92,500 ล้านหุ้น มูลค่า 855 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งได้มีการชำระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินทั้งธนาคารกรุงไทย และบริษัทหลักทรัพย์สินเอเชีย จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงเหลือหนี้ที่ต้องชำระอีกประมาณ 250 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็ได้ไถ่ถอนที่ดินย่านบางกระเจ้าจำนวน 300 ไร่มาแล้ว ทำให้บริษัทสามารถเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเพื่อหารายได้ได้อย่างเต็มที่ 
"หนี้ที่มีอยู่ 250 ล้านบาทนั้นจะทยอยคืนหนี้ให้กับบริษัทหลักทรัพย์สินเอเชียในเดือนเมษายนนี้จำนวน 50 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาทจะพยายามจ่ายให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้" นายนครกล่าว

นายนครกล่าวว่า ได้วางเป้าหมายในการหารายได้ไว้ 2 แนวทางคือ 1.การซื้อทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ทันที อาทิ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โดยเร็วๆ นี้ จะเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ขอนแก่น มูลค่า 800 ล้านบาท และยังได้เข้าไปซื้อหุ้นในบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทให้เช่าพื้นที่เก็บสินค้า และโรงงานที่โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ย่านเมืองใหม่บางพลี จำนวน 7.21% มูลค่า 86.49 ล้านบาท จำนวน 692 ไร่ 2.การซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้วขาย โดยให้น้ำหนักทั้ง 2 แนวทางในสัดส่วนที่เท่ากัน
นายนครกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาที่ดินย่านบางกระเจ้ามาพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะตัดขายที่ดินเปล่าจำนวน 30 ไร่ มูลค่า 500 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มนักลงทุนจากยุโรป เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบคล้ายกับชีวาศรม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะร่วมทุนด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำที่ดินย่านรามอินทราจำนวน 2 ไร่ครึ่ง มาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลวไรส์ 8 ชั้น มูลค่า 400-500 ล้านบาท ราคา 50,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร คาดจะเปิดตัวประมาณกลางปีนี้ ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินย่านอ่อนนุช-พระโขนง อีกประมาณ 4-5 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมีเนียม คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และกลับมามีกำไรภายใน 2 ปีข้างหน้า

นายนครกล่าวว่า ส่วนที่ดินบริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งบริษัทได้ทำสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมอามันปุรี รีสอร์ท งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพัฒนาได้ เนื่องจากติดปัญหาผู้เช่าเดิมไม่ยอมย้ายออก จนล่าสุดเหลือสัญญาเช่าเพียง 20 ปี จากเดิม 30 ปีนั้น ทางบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปเจรจากับกรมธนารักษ์เพื่อขอยืดสัญญาเช่าออกไปเป็น 30 ปีเหมือนเดิม เพราะล่าสุดมีแนวโน้มที่จะได้ข้อยุติในการย้ายหน่วยดังกล่าวออกจากพื้นที่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น