วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ห้าง El Corte Inglés (เอล คอเต้ อินเลส)

ห้าง El Corte Inglés (เอล คอเต้ อินเลส)

ห้าง El Corte Inglés (เอล คอเต้ อินเลส) เป็นเครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และใหญ่ที่สุดในประเทศสเปน มียอดขายในปี 2555 กว่า 14,000 ล้านยูโร (เท่ากับกว่า 500,000 ล้านบาท, เปรียบเทียบกับกลุ่มห้าง Central ในไทยที่มียอดขาย 180,000 ล้านบาท) มีธุรกิจหลากหลายรวมถึงห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าประเภท Specialty store แต่ธุรกิจห้างสร้างรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของธุรกิจรวม เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศสเปน นอกจากกลุ่มที่เราคุ้นเคยอย่างกลุ่ม Inditex ที่เป็นเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดังอย่าง ZARA หรือกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้ายี่ห้ออื่น ๆ เช่น H&M, MNG และห้างเอล คอเต้นั้นมีประวัติเก่าแก่ยาวนานเกือบหนึ่งร้อยปี
ในช่วงตุลาคมที่ผ่านมาเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวไทย เนื่องจากประเทศในแถบเหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไป จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ผมใช้ท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในสเปนกว่าสองสัปดาห์และได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายในประเทศที่เคยมีอัตราว่างงานสูงกว่า 20% ในช่วงวิกฤต Subprime ห้างเอล คอเต้ คือสิ่งหนึ่งที่ผมพบเห็นได้ทั่วทั้งสเปน และดูเหมือนกับมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วในยุโรปที่ผมได้พบเห็น ประเทศอังกฤษเราได้เห็นห้าง แฮร์รอดเฉพาะที่ Knightsbridge กรุงลอนดอน หรือห้าง Galeries Lafayette ก็มีอยู่แค่แห่งเดียวในกลางกรุงปารีส
คนสเปนรับประทานอาหารกลางวันบ่ายสอง และอาหารเย็นตอนสองสามทุ่ม มีอุปนิสัยชอบเดินห้างเป็นพิเศษเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป จึงไม่น่าแปลกใจที่ห้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปเพิ่งเปิดในเมือง Zaragoza ในปีนี้ รวมถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ห้างเอล คอเต้มีเครือข่ายหลายร้อยสาขาทั่วสเปน เหตุผลอีกอย่างหนึ่งคือการขยายตัวของชุมชนใหม่ ๆ ในเขตรอบนอกเมืองเก่า เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เริ่มสร้างครอบครัว และเป็นคนอพยพจากประเทศอื่น ๆ ทำให้เกิดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจสเปนถูกผลกระทบอย่างแรงในช่วงวิกฤตเลห์แมน บราเดอร์ แม้ว่าปัจจุบันจะมีสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้วก็ตาม แต่การจับจ่ายก็ต่ำกว่าเดิม และมีแนวโน้มการออมสูงขึ้น ผลประกอบการของห้างเอ คอเต้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากภาพลักษณ์ของห้างที่ขายสินค้าคุณภาพดี แต่ราคาสูง แนวโน้มผู้บริโภคนิยมห้างประเภทพลาซ่ามากขึ้น นอกจากนั้นอีกส่วนหนึ่งก็นิยมไปซื้อของที่ Hypermarket ซึ่งมีราคาถูกกว่า และธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็กำลังเริ่มจะเฟื่องฟูในสเปน

ผมเดินสำรวจห้างเอล คอเต้หลาย ๆ สาขาทั่วทั้งสเปน รวมถึง Flagship store ที่กรุงมาดริด ใกล้ ๆ กับสนามซานติเอโก้ เบอร์นาบิวของทีมฟุตบอลราชันย์ชุดขาว ห้าง Flagship แห่งนี้กว้างกินอาณาเขตหลายช่วงถนน มีสินค้าทุกประเภท ทุกระดับ นอกจากนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเต็มรถบัสที่มากันเป็นระยะ ๆ ซึ่งมักจะมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมของยุโรป ผมพบว่าร้านค้าค่อนข้างเงียบเหงา และการจัดสินค้านั้นเป็นแบบสมัยนิยม ไม่หวือหวา ซึ่งเราพบเห็นได้ในห้างของไทยหลาย ๆ ปีก่อน สินค้าในห้างมีราคาแพงกว่าร้านภายนอก รวมถึงแพงกว่าประเทศอื่นอย่างเทียบกันไม่ได้ มีรีวิวของคนอเมริกาบอกว่า สินค้าห้างนี้ค่อนข้างแพงกว่าเมื่อเทียบกับห้างในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งผมก็เห็นว่าค่อนข้างจริง ผมไม่แน่ใจว่าสาเหตุคือภาษี นโยบายบริษัท หรือความสามารถในการแข่งขันของบริษัทที่ต้นเผชิญกับภัยคุกคามและสินค้าทดแทนมากมาย อย่างไรก็ดีสิ่งที่เห็นก็สะท้อนภาพผลประกอบการบริษัทที่กำลังยากลำบาก ยอดขายลดลง และกำไรลดลงอย่างมากในหลายปีที่ผ่านมา

กฏหมายค้าปลีกของสเปนค่อนข้างรัดกุมมากในอดีต มีการกำหนดโซนนิ่ง และเวลาปิดเปิดที่ชัดเจน เช่นห้ามร้านค้าที่มีขนาดเกิน 100 ตรม. เปิดในวันอาทิตย์เกินกว่าจำนวนครั้งที่กำหนด อย่างไรก็ดีรัฐบาลสเปนก็ผ่านร่างกฎหมายที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยแคว้นมาดริดเป็นแคว้นแรกที่อนุญาตให้ร้านค้าปลีกในเขตท่องเที่ยวสามารถเปิดได้ตลอด 24 ชม. และสามารถเปิดได้ทุกวันทำการของปีอีกด้วย

ผลที่ตามมาคือร้านโชว์ห่วยที่ดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวขนาดเล็กเริ่มอยู่รอดได้ยากขึ้น และล้มหายตายจากไป (ส่วนหนึ่งถูกทดแทนด้วยร้านโชว์ห่วยของชาวจีน) แต่เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากขึ้นเนื่องจากสามารถซื้อสินค้าในราคาถูกกว่าได้ทุกวัน และร่างกฎหมายนี้มีแนวโน้มจะบังคับใช้ในแคว้นอื่น ๆ อีกด้วย ถึงกระนั่น บริษัทห้างเอล คอเต้ก็ได้รับประโยชน์ไม่เพียงพอ จนเจ้าของต้องขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับแบงค์สเปนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดจบเดียวกับห้างแฮร์รอดของอังกฤษที่เพิ่งเปลี่ยนถ่ายเจ้าของเช่นเดียวกัน

เป็นภาพสะท้อนว่าอาณาจักรธุรกิจแม้ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็สามารถยากลำบากได้เช่นเดียวกัน

Excerpted from ห้าง El Corte Inglés (เอล คอเต้ อินเลส)
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=54923
❄❄❄❄❄

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น