BECLข่าวดีค่าทางด่วน
ดันกำไรปีนี้เติบโต32%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 03 กันยายน 2556 ผู้เข้าชม : 4 คน
หุ้น BECL สู่เป้าหมาย 50 บาท ขานรับข่าวดีปรับขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท พ่วงไตรมาส 3/56 เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และบันทึกกำไรพิเศษขายไอพีโอ CKP อีก 60 ล้านบาท ช่วยผลักดันกำไรปีนี้เติบโต 32%
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.56 ที่ผ่านมา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประกาศปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี อัตราค่าผ่านทางพิเศษใหม่ ตามประกาศกระทรวงคมนาคม ที่กำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษใหม่และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.56 สำหรับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) และทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นไป เป็นไปตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ระหว่าง กทพ.และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ หรือ BECL
จากประเด็นดังกล่าวบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า แนะนำซื้อหุ้นบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BECL บริษัทปรับขึ้นค่าทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จำนวน 5-10 บาท ดังกล่าว ส่งผลดีต่อผลประกอบการครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 เป็นไฮซีซั่นของการใช้ทางด่วนและมีกำไรจากการร่วมขาย IPO หุ้น CKP ราว 50-60 ล้านบาท โดยบันทึกช่วงไตรมาส 3/56 ราคาหุ้นที่ปรับลงมาทำให้ราคาเทียบกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ลดลงเหลือ 13.7 เท่าช่วงปีนี้ และ 10.9 เท่าช่วงปีหน้า ขณะที่คาดว่ากำไรปกติปีนี้จะเติบโต 32% และปีหน้าเติบโต 26% พร้อมคงราคาเป้าหมาย 50 บาท
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้น BECL ราคาหุ้น BECL หลังได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นค่าผ่านทางตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.56 สาหรับด่านเฉลิมมหานคร-ศรีรัช-บูรพาวิถี (โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 11% จากค่าผ่านทางเดิม)ส่งผลบวกต่อผลประกอบการปลายไตรมาส 3/56 และต่อเนื่องไปช่วงไตรมาส 4/56 โดยการใช้ทางด่วนมากขึ้น จากปัญหารถติดมากในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ราคาเป้าหมาย 45.11 บาท
นางสุทธิดา สุขนินทร์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าหลังจากการปรับขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของรายได้มากนัก แต่ช่วงแรกของการปรับขึ้นค่าทางด่วน อาจมีผลทำให้ปริมาณการจราจรบนทางด่วนลดลงบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อราคาสินค้าสูงขึ้นก็อาจกระทบกำลังซื้อบ้างช่วงเริ่มต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าหากภาวะเศรษฐกิจช่วงหลังจากนี้มีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดี และการจราจรบนพื้นราบมีความหนาแน่น ทำให้เชื่อว่าประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทางด่วนโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ขณะที่ปริมาณการจราจรบนทางด่วนมีการขยายตัวได้ค่อนข้างดี โดยปริมาณรถยนต์ใช้บริการทางด่วน ช่วงไตรมาส 2/56 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.08 ล้านคันต่อวัน เติบโต 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับภาพรวมปี 2556 บริษัทคาดว่ารายได้รวมเติบโตได้ระดับดี โดยก่อนหน้านี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณการจราจรบนทางด่วนเติบโตประมาณ 2-2.5% แต่จากนี้ต้องการติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าผ่านทางอีกครั้ง มีความเป็นไปได้ว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนเติบโตประมาณ 1-1.5% ขณะที่ช่วงไตรมาส 3/56 อาจมีการบันทึกกำไรพิเศษก่อนหักภาษีเข้ามาอีกประมาณ 60 ล้านบาท จากการออกขายไอพีโอ บริษัท ซี เค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เข้ามาด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น