โบรกมองแนวโน้มหุ้นไทยช่วงต้นสัปดาห์หน้า มีแนวโน้มรีบาวน์จากแรงซื้อของกองทุน แนะจับตาสัญญานชะลอขายของต่างชาติจากหุ้น KBANK หากเริ่มกระเตื้องขึ้นมายืนบวกได้ ชี้ว่าแรงซื้อต่างชาติเริ่มชะลอลง
ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ( 31 พ.ค.) ปรับตัวผันผวน หลังจากรีบาวน์ขึ้นในช่วงเช้าไปได้สูงสุดที่ 1, 595.12 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด และปิดตลาดภาคเช้าในแดนลบ โดยในช่วงบ่ายปรับตัวลงแรงลงไปต่ำสุดที่ 1,555.07 จุด ลดลง 26.09 จุด และปิดตลาดที่ 1,562.07 จุด ลดลง 19.25 จุด หรือ 1.22% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 75,638 ล้านบาท
ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ( 31 พ.ค.) ปรับตัวผันผวน หลังจากรีบาวน์ขึ้นในช่วงเช้าไปได้สูงสุดที่ 1, 595.12 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด และปิดตลาดภาคเช้าในแดนลบ โดยในช่วงบ่ายปรับตัวลงแรงลงไปต่ำสุดที่ 1,555.07 จุด ลดลง 26.09 จุด และปิดตลาดที่ 1,562.07 จุด ลดลง 19.25 จุด หรือ 1.22% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 75,638 ล้านบาท
-สถาบันซื้อสุทธิ -1,796.69 ล้านบาท
-นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 374.86 ล้านบาท
-บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -1,096.05 ล้านบาท
-นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,517.87 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ดัชีนยังคงมีโอกาสปรับลงทดสอบแนวรับ 1,550 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,520 จุด แนวรับกรอบล่างที่ 1,500 จุด ซึ่งจะวัดจุดที่เป็นแนวรับแข็งแกร่งได้จากความเคลื่อนไหวของหุ้น KBANK เพราะเป็นหุ้นที่ต่างชาติเข้าลงทุนจำนวนมาก และที่ผ่านมาจะเห็นแรงขายผ่านเอ็นวีดีอาร์ต่อเนื่อง ซึ่งสท้อนถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงมีต่อเนื่องกดดันให้ดัชนีวันนี้ปรับลงแรงอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าประมาณวันอังคารหรือวันพุธ 4-5 มิ.ย. ดัชนีจะรีบาวน์ขึ้นมาได้ เพราะยังมีแรงซื้อจากกองทุนในประเทศช่วยหนุน และการปรับลดลงของดัชนีในสัปดาห์นี้เป็นเพราะความกังวลว่าเฟดจะมีการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ซึ่งประเมินว่าเฟดยังไม่ลดขนาด QE ลงภายในไตรมาส 3/56 และภาวะตลาดพันธบัตรที่ค่อนข้างผันผวน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐและญี่ปุ่น จึงทำให้มีการขายหุ้นออกไปชดเชยการลงทุนในส่วนของพันธบัตร
สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าสะสมในช่วงที่ตลาดปรับลดลง แนะหุ้น EGCO ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวประมูลโรงไฟฟ้า IPP ทำให้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง THAI และเก็งหุ้นทมี่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ SET 50 ได้แก่ CK , SAMTEL , GLOBAL
กรอบลงทุนสัปดาห์หน้า
-บล.ซีไอเอ็มบีไทย ให้กรอบลงทุนที่ 1,555 - 1,575 จุด แนะนำหุ้น TVI
-บล.คันทรี่กรุ๊ป ให้กรอบลงทุนที่ 1,550- 1,575 จุด แนะนำหุ้น PREB
-บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้กรอบลงทุนที่ 1,540- 1,580จุด แนะนำหุ้น EGCO
-บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ให้กรอบลงทุนที่ 1,550-1,575 จุด แนะนำหุ้น CTW
-บล.ธนชาต ให้กรอบลงทุนที่ 1,535 - 1,580 จุด แนะนำหุ้น KBANK
-นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 374.86 ล้านบาท
-บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -1,096.05 ล้านบาท
-นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,517.87 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด กล่าวในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ดัชีนยังคงมีโอกาสปรับลงทดสอบแนวรับ 1,550 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,520 จุด แนวรับกรอบล่างที่ 1,500 จุด ซึ่งจะวัดจุดที่เป็นแนวรับแข็งแกร่งได้จากความเคลื่อนไหวของหุ้น KBANK เพราะเป็นหุ้นที่ต่างชาติเข้าลงทุนจำนวนมาก และที่ผ่านมาจะเห็นแรงขายผ่านเอ็นวีดีอาร์ต่อเนื่อง ซึ่งสท้อนถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงมีต่อเนื่องกดดันให้ดัชนีวันนี้ปรับลงแรงอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าประมาณวันอังคารหรือวันพุธ 4-5 มิ.ย. ดัชนีจะรีบาวน์ขึ้นมาได้ เพราะยังมีแรงซื้อจากกองทุนในประเทศช่วยหนุน และการปรับลดลงของดัชนีในสัปดาห์นี้เป็นเพราะความกังวลว่าเฟดจะมีการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ซึ่งประเมินว่าเฟดยังไม่ลดขนาด QE ลงภายในไตรมาส 3/56 และภาวะตลาดพันธบัตรที่ค่อนข้างผันผวน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐและญี่ปุ่น จึงทำให้มีการขายหุ้นออกไปชดเชยการลงทุนในส่วนของพันธบัตร
สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าสะสมในช่วงที่ตลาดปรับลดลง แนะหุ้น EGCO ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวประมูลโรงไฟฟ้า IPP ทำให้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง THAI และเก็งหุ้นทมี่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ SET 50 ได้แก่ CK , SAMTEL , GLOBAL
กรอบลงทุนสัปดาห์หน้า
-บล.ซีไอเอ็มบีไทย ให้กรอบลงทุนที่ 1,555 - 1,575 จุด แนะนำหุ้น TVI
-บล.คันทรี่กรุ๊ป ให้กรอบลงทุนที่ 1,550- 1,575 จุด แนะนำหุ้น PREB
-บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้กรอบลงทุนที่ 1,540- 1,580จุด แนะนำหุ้น EGCO
-บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ให้กรอบลงทุนที่ 1,550-1,575 จุด แนะนำหุ้น CTW
-บล.ธนชาต ให้กรอบลงทุนที่ 1,535 - 1,580 จุด แนะนำหุ้น KBANK
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น