ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ‘วิสิฐ-ทวีฉัตร’ฮุบMPG
ปรับทำธุรกิจพลังงาน
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 6 คน
“แมงป่อง” หรือ MPG จ่อถูกแบ็กดอร์ หลังกลุ่ม “วิสิฐ” อดีตเลขาฯ กบข. เข้าถือหุ้นใหญ่ 25 ล้านหุ้น นำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 1 พันล้านบาทเข้าประตูหลัง เปิดทางสว็อปหุ้นก่อนปรับโมเดลธุรกิจ ด้าน “ทวีฉัตร จุฬารกูร” เก็บหุ้นเพิ่มเป็น 7.8%
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า หลังจากนายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกบข.เข้ามาถือหุ้นใหญ่ บมจ.แมงป่อง 1989 หรือ MPG จำนวน 25 ล้านหุ้น ก็มีการหารือเกี่ยวกับแผนที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่ เนื่องจากธุรกิจในปัจจุบันของแมงป่องมีรายได้ค่อนข้างต่ำ โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่มีแผนที่จะนำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาแบ็กดอร์ (จดทะเบียนทางอ้อม) ผ่านหุ้น MPG
โดยนายวิสิฐ ได้เข้าซื้อหุ้นแมงป่องแบบ PP จากผู้ถือหุ้นใหญ่ นางกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ซึ่งมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ขณะที่ทั้งสองเคยเข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง หรือ บยส. ด้วยกัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการแลกหุ้นระหว่างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท ของกลุ่มนายวิสิฐ กับหุ้นแมงป่อง ในระดับราคาที่ 3-4 บาทต่อหุ้น ก่อนจะปรับโมเดลธุรกิจใหม่ทั้งหมด และทยอยขายสาขาของ MPG ออกไป ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว สาขาพารากอน และสาขามาบุญครอง เป็นต้น ซึ่งประเมินเบื้องต้นจะได้เงินประมาณ 100 ล้านบาท
ขณะที่บมจ.แมงป่อง มีหนี้สินค่อนข้างต่ำ หลังจากเพิ่มทุนแล้ว ดังนั้นจึงมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจได้ทันที โดยปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ซอฟต์แวร์ และถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และเพลงสากล เพื่อผลิตสินค้าในรูปแบบบลูเรย์ ดิสก์ และดีวีดีรวมถึงสินค้าลิขสิทธิ์ ซึ่งมีรายได้ค่อนข้างต่ำ ซึ่งในไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ของนายวิสิฐ ยังมีแผนดึงนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นใหญ่ภายหลังจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอนาคตทางธุรกิจที่ดีกว่าธุรกิจขายซีดี
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง มองว่าการปรับเปลี่ยนธุรกิจของแมงป่อง เป็นพลังงานทางเลือก ถือว่าน่าสนใจ หากเทียบกับธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไปว่าใครจะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่นายวิสิฐมีความสัมพันธ์ที่ดี
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของบมจ.แมงป่อง 1989 (MPG) โดยนายทวีฉัตร จุฬางกูร ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10/07/2557 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 3.24% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 7.8% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ปรับทำธุรกิจพลังงาน
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 6 คน
“แมงป่อง” หรือ MPG จ่อถูกแบ็กดอร์ หลังกลุ่ม “วิสิฐ” อดีตเลขาฯ กบข. เข้าถือหุ้นใหญ่ 25 ล้านหุ้น นำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 1 พันล้านบาทเข้าประตูหลัง เปิดทางสว็อปหุ้นก่อนปรับโมเดลธุรกิจ ด้าน “ทวีฉัตร จุฬารกูร” เก็บหุ้นเพิ่มเป็น 7.8%
แหล่งข่าวจากตลาดทุน เผยว่า หลังจากนายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกบข.เข้ามาถือหุ้นใหญ่ บมจ.แมงป่อง 1989 หรือ MPG จำนวน 25 ล้านหุ้น ก็มีการหารือเกี่ยวกับแผนที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่ เนื่องจากธุรกิจในปัจจุบันของแมงป่องมีรายได้ค่อนข้างต่ำ โดยผู้ถือหุ้นรายใหม่มีแผนที่จะนำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาแบ็กดอร์ (จดทะเบียนทางอ้อม) ผ่านหุ้น MPG
โดยนายวิสิฐ ได้เข้าซื้อหุ้นแมงป่องแบบ PP จากผู้ถือหุ้นใหญ่ นางกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ซึ่งมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ขณะที่ทั้งสองเคยเข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง หรือ บยส. ด้วยกัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการแลกหุ้นระหว่างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท ของกลุ่มนายวิสิฐ กับหุ้นแมงป่อง ในระดับราคาที่ 3-4 บาทต่อหุ้น ก่อนจะปรับโมเดลธุรกิจใหม่ทั้งหมด และทยอยขายสาขาของ MPG ออกไป ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว สาขาพารากอน และสาขามาบุญครอง เป็นต้น ซึ่งประเมินเบื้องต้นจะได้เงินประมาณ 100 ล้านบาท
ขณะที่บมจ.แมงป่อง มีหนี้สินค่อนข้างต่ำ หลังจากเพิ่มทุนแล้ว ดังนั้นจึงมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนธุรกิจได้ทันที โดยปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ซอฟต์แวร์ และถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และเพลงสากล เพื่อผลิตสินค้าในรูปแบบบลูเรย์ ดิสก์ และดีวีดีรวมถึงสินค้าลิขสิทธิ์ ซึ่งมีรายได้ค่อนข้างต่ำ ซึ่งในไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ของนายวิสิฐ ยังมีแผนดึงนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นใหญ่ภายหลังจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอนาคตทางธุรกิจที่ดีกว่าธุรกิจขายซีดี
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง มองว่าการปรับเปลี่ยนธุรกิจของแมงป่อง เป็นพลังงานทางเลือก ถือว่าน่าสนใจ หากเทียบกับธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไปว่าใครจะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่นายวิสิฐมีความสัมพันธ์ที่ดี
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหุ้นของบมจ.แมงป่อง 1989 (MPG) โดยนายทวีฉัตร จุฬางกูร ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10/07/2557 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 3.24% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 7.8% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
posted from Bloggeroid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น