วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

"MC" คาดงบไตรมาส 2/57 โชว์กำไรสุทธิ 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมลุ้นปันผลครึ่งปีแรก หุ้นละ 0.39 บาท

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: MCปันผลครึ่งปี39สต.
คาดQ2กำไรโต13%

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 4 คน
"MC" คาดงบไตรมาส 2/57 โชว์กำไรสุทธิ 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมลุ้นปันผลครึ่งปีแรก หุ้นละ 0.39 บาท มั่นใจครึ่งปีหลังรุ่งรับกำลังซื้อฟื้นตัว โบรกฯแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 19.20 บาทต่อหุ้น


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC ในไตรมาส 2/57 น่าจะมีกำไรต่ำสุดของปีที่ 187.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 164 ล้านบาท เนื่องจากสาขาที่เพิ่มขึ้นและรายได้จาก ไทม์ เดคโด (Time Deco) ด้านการหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากโลว์ซีซั่น (Low season)

ทั้งนี้ ในระยะสั้นคงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังฟื้นตัวชัดเจน จากกำลังซื้อในต่างจังหวัดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังการจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวและเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น (High Season) นอกจากนี้การควบรวมกิจการเป็นอีกอัพไซด์ (Upside) ที่ยังไม่รวมในประมาณการ คงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร ที่ราคาเป้าหมาย 19.20 บาท

สำหรับ MC เป็นอีกหุ้นประเภทปันผลเด่น จึงคาดเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 เท่ากับ 0.39 บาท และปีนี้ที่ 0.90 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.8% อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสะท้อนการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศรวมถึงประเด็นการ M&A ที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 2557

นอกจากนี้ MC ยังขยายสาขาไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/57 ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 18 สาขา (พม่า 16, ลาว 1 และเวียดนาม 1) ขณะเดียวกัน MC อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อนำสินค้าเข้าไปขายในกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส3/57 รวมถึงประเด็นการควบรวมกิจการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ยังเป็นอีกหนึ่งอัพไซด์ต่อประมาณการ

บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ระบุว่า MC ในไตรมาส 2/57 น่าจะมีกำไรสุทธิ 175 เพิ่มขึ้น 7% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิที่ 164 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนหน้ายังไม่มีรายได้จากกิจการ Time Deco เข้ามา (ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 13% ของรายได้ทั้งหมด) ขณะเดียวกันกำไรสุทธิในไตรมาส 2/57 ก็ลดลง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 207 ล้านบาท เนื่องจาก MC จำเป็นต้องขายสินค้าในระดับ value-for-money เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ต้นทุนสินค้าต่อยอดขายมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 46% จากเดิม 42% ในไตรมาส 2/56

รวมถึงการขยายสาขาใหม่ 28 แห่งในไตรมาสนี้ (รวมครึ่งปีแรกคิดเป็น 54% ของเป้าหมายทั้งปี) รวมทั้งการลงทุนเพื่อแตกไลน์สินค้าแบรนด์ใหม่ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่สูงขึ้นราว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม MC ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่จะเติบโตได้อีก โดยเฉพาะการเติบโตแบบ Inorganic growth ที่ช่วยต่อยอดรายได้จากธุรกิจเดิม บวกกับการรุกตลาดต่างประเทศอย่างหนัก ซึ่งคาดรายได้จากต่างประเทศจะเติบโตเฉลี่ยช่วง 4 ปีข้างหน้าเท่ากับ 19% นอกจากนี้ บริษัทยังมีเงินสดเหลือในมือเหลืออยู่ราว 1,800 ล้านบาทที่พร้อมจะขยายธุรกิจในอนาคต จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 20 บาท

ก่อนหน้านี้ นางปรารถนา มงคลกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร MC กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/57 ยังมีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และน่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1/57 ที่มียอดขายเติบโต 27% ขณะที่ทั้งปีบริษัทยังคงเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 25% จากปีก่อน แม้จะคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 23-24% ลดลงจากปีก่อนที่ 25% เนื่องจากบริษัทเข้าซื้อกิจการไทม์ เดคโดเข้ามา ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำกว่าแม็คกรุ๊ป ทำให้อัตรากำไรสุทธิรวมลดลงก็ตาม

สำหรับปีนี้ไทม์ เดคโค จะมีการขยายประมาณ 12 สาขา จากเดิมมี 13 สาขา ก็จะส่งผลให้ปีนี้มีจำนวนสาขารวม 25 สาขา และแม้ปกติไทม์ เดคโคจะมีมาร์จิ้นประมาณ 10% ซึ่งหลังจากที่บริษัทเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 51% คาดว่าใน 2 ปี บริษัทจะทำให้ไทม์ เดคโคมีมาร์จิ้นเพิ่มเป็น 15% ได้ และปีนี้ยังมีแผนจะขยายสาขาของบริษัทเพิ่มประมาณ 100-110 สาขา โดยจะทยอยเปิดไตรมาสละ 30 สาขา ซึ่งภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 794 ล้านบาท จากสิ้นปี 2556 มี 684 สาขา

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น