วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เสี่ยไมค์รวบหุ้นCGD บิ๊กล็อต350ล้านหุ้น

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: เสี่ยไมค์รวบหุ้นCGD
บิ๊กล็อต350ล้านหุ้น
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 09 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 54 คน
“เสี่ยไมค์” ควักเงิน 455 ล้านบาท ทำบิ๊กล็อตหุ้น CGD 350 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 1.30 บาท เพื่อเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น CGD เป็น 17.50% จากเดิมอยู่ที่ 12.61% ขานรับธุรกิจฟื้นตัวและข่าวดีตั้ง REIT ปลายปีนี้


รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า วานนี้ (8 ก.ค.) มีการซื้อขายหุ้นในกระดานใหญ่ (BIG LOT) หุ้นบริษัท คันทรี่กรุ๊ปดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD จำนวน 4 รายการรวมทั้งสิ้น 350 ล้านหุ้น ประมาณ 4.89% ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.30 บาท รวมมูลค่าการซื้อขาย 455 ล้านบาท

แหล่งข่าววงการเงิน กล่าวกับ“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า มีความเป็นได้สูงว่า นายสดาวุธ เตชะอุบล รองประธานกรรมการ CGD เป็นผู้ทำบิ๊กล็อตรายการดังกล่าว เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น CGD จาก 925 ล้านหุ้น หรือ 12.61% เพิ่มเป็น 1,275 ล้านหุ้น หรือ 17.50% (เพิ่มขึ้น 4.89%) เพื่อรองรับการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และข่าวดีจากการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ช่วงปลายปีนี้

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น CGD สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ก.ค. 57 พบว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ประกอบด้วย 1)นายเบน เตชะอุบล ถือหุ้น 1,330 ล้านหุ้น หรือ 18.07% 2)นายทรงชัย อัจฉริยหิรัญชัย ถือหุ้น 957.84 ล้านหุ้น หรือ 13.06% 3)นายสดาวุธ เตชะอุบล ถือหุ้น 925 ล้านหุ้น หรือประมาณ 12.61%

ขณะที่นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGD ระบุก่อนหน้านี้ว่า รายได้ปีนี้แนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อน ที่มีรายได้ราว 340 ล้านบาท ขณะเดียวกันมั่นใจว่าทั้งปีจะมีกำไรแม้ว่าช่วงไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมามีผลประกอบการขาดทุน 5.98 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ช่วงปลายไตรมาส 3/57 หรือช่วงต้นไตรมาส 4/57 โดยนำโครงการศูนย์ข้อมูล Anchorage Point Data Center ประเทศอังกฤษ มูลค่าโครงการราว 1,350 ล้านบาท เป็นสินทรัพย์ในกองทุนฯดังกล่าว

สำหรับโครงการแลนด์มาร์ควอเตอร์ฟร้อนท์ มีเป้าหมายก่อสร้างเสร็จปี 2560 โดยมีมูลค่า 29,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม 5 ดาว 2 โรงแรม และคอนโดมิเนียม สูง 73 ชั้น 350 ยูนิต พร้อมเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4/57

ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Investment property) โดยซื้อกิจการเป็นหลักมากกว่าการที่จะลงทุนพัฒนาขึ้นมาใหม่มากขึ้น บริษัทมองว่าเป็นการรับรู้รายได้ที่ค่อนข้างเร็ว โดยบริษัทสนใจในทุกรูปแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีการเจรจากับพันธมิตรหลายราย คาดว่าในปีนี้จะสามารถเห็นความชัดเจนได้ 1 โครงการ

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น