วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ราคาทองลดเหลือ1,050ดอลล์ภายในธ.ค.

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ราคาทองลดเหลือ1,050ดอลล์ภายในธ.ค.

ต่างประเทศ วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 4 คน
บลูมเบิร์ก - แม้ว่าทองคำจะดีดตัว และกองทุนเพิ่มการถือครองอย่างคึกคัก แต่ นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ฯยังคงยืนยันความเห็นเดิม ทองคำจะปรับตัวลงภายในปลายเดือนธันวาคมเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น โดยทองคำแท่งจะปรับตัวลงเหลือ 1,050 ดอลลาร์



แม้ว่าทองคำดีดตัว 11% ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าการดีดตัวของหุ้นโภคภัณฑ์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ แต่ เจฟฟรี่ เคอร์รี่ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงซ์ ยังคงมีความเห็นเช่นเดิมว่าทองคำจะปรับตัวลงภายในปลายเดือนธันวาคมเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น

เมื่อปีที่ผ่านมา เคอร์รี่ได้คาดการณ์ได้อย่างถูกต้องว่าทองคำจะล่มสลายครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 เขาเป็นนักวิเคราะห์ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงความเห็นที่ว่าทองจะปรับตัวลง แม้ว่ากองทุนบริหารความเสี่ยงจะเพิ่มการถือครองทองคำอย่างคึกคักเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันแล้ว และถึงแม้ว่าสินทรัพย์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในตลาดจะปรับตัวขึ้น

เคอร์รี่ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำนายว่าการดีดตัวของทองคำจะสิ้นสุดลงหลังจากในช่วงครึ่งปีแรกมีผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553

ไมเคิล เฮห์ นักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เยเนอรัล ซึ่งคาดการณ์ได้ถูกต้องเช่นกันว่าทองคำจะปรับตัวลงในปี 2556 ก็ได้ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมว่า ทองคำจะปรับตัวลงประมาณ 7% ภายในไตรมาสสี่

ในขณะนี้ผู้จัดการเงินกำลังท้าทายนักวิเคราะห์ด้วยการเดิมพันว่าทองคำจะดีดตัวครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากราคาทองได้ปรับตัวขึ้นเป็นรายสัปดาห์นานที่สุดในรอบ 3 ปี

เคอร์รี่ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยโภคภัณฑ์ทั่วโลกของโกลด์แมน แซคส์ และจบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าวว่า ทองคำจะเริ่มปรับตัวลงเมื่อมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการฟื้นตัวและไม่มีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อมาก เนื่องจากราคาน่าจะลดลงในปีนี้

ตราสารล่วงหน้าทองคำในตลาดโคเม็กซ์นิวยอร์กปรับตัวขึ้น 1.3% เป็น 1,337.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่หกติดต่อกันแล้ว และเป็นการปรับตัวขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554

จากข้อมูลของคณะกรรมการซื้อขายตราสารล่วงหน้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ มีการซื้อออปชั่นและตราสารล่วงหน้าทองคำเพิ่มขึ้น 5.4% เป็น 144,272 สัญญาในสัปดาห์ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ส่วนการขายล่วงหน้าลดลงห้าสัปดาห์ติดต่อกัน

หลังจากที่ดีดตัวมานาน 12 ปีติดต่อกัน ทองได้ปรับตัวลง 28% เมื่อปี 2556 เนื่องจากหุ้นดีดตัวจึงทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งหมดศรัทธาในทองคำ

ค่าครองชีพในสหรัฐได้เพิ่มขึ้น 1.5% ในช่วง 12 เดือนที่นับถึงเดือนธันวาคม เทียบกับที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.4% ในช่วง 10 ปีก่อนหน้า ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐ ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อฟื้นตัวเป็น 2.1% ในเดือนพฤษภาคม

เคอร์รี่ได้แนะนำให้ขายทองคำเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 สองวันก่อนที่ทองคำจะตก 13% ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 15 เมษายน ผู้จัดการเงินส่วนใหญ่ไม่คาดว่าราคาทองจะลดลงและได้เพิ่มเดิมพันในเดือนก่อนหน้าประมาณ 11% แต่พอเดือนธันวาคม นักลงทุนลดการถือครองทองคำไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ในขณะนี้เคอร์รี่คาดการณ์ว่า ทองคำแท่งจะปรับตัวลงเหลือ 1,050 ดอลลาร์ภายในปลายปี 2557 โดยยืนยันประมาณการที่ได้ทำไว้ตั้งแต่ต้นปี ส่วนเฮห์มองว่า ทองคำจะอยู่ที่ 1,245 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสี่

นักลงทุนไม่มีความมั่นใจว่าราคาทองจะปรับตัวลง หลังจากที่มีความรุนแรงในอิรักและยูเครน และธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำไว้ มีความต้องการสินทรัพย์ที่เป็นที่หลบภัยอีกครั้งและทองก็กลับมาเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุน

การถืออีทีพี หรือกองทุนที่ใช้ทองคำแท่งค้ำประกัน เพิ่มขึ้นเป็นสามสัปดาห์ติดต่อกันเมื่อนับถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ซึ่งถือว่านานที่สุดในรอบ 4 เดือน เมื่อปีที่ผ่านมามูลค่าของกองทุนอีทีพีหายไปกว่า 73,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อนักลงทุนเทขายทองคำ 869 ตัน

ทองคำแท่งปรับตัวขึ้น 70% ในช่วงเดือนธันวาคม 2551-มิถุนายน 2554 เมื่อเฟดซื้อตราสารหนี้และคงต้นทุนในการกู้ยืมให้ต่ำสุดตลอดกาล

จอร์จ จีโร นักกลยุทธ์โลหะมีค่าของอาร์บีซี แคปิตอล แอลแอลซี ในนิวยอร์ก กล่าวว่า มีความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองในหลายๆ ส่วนของโลกและความประหลาดใจทางเศรษฐกิจกำลังดึงดูดความสนใจของนักลงทุนมากขึ้น เราน่าจะได้เห็นการจัดอันดับใหม่ต่อประมาณการที่ซบเซาเหล่านั้น

ทองคำแท่งยังคงต่ำจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 1,923.70 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้เมื่อเดือนกันยายน 2554 อยู่ 31% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐแสดงสัญญาณการเติบโตที่ยั่งยืน

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น