วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ธนาคารวาติกันหรือ IOR (ฉายา ธนาคารของพระเจ้า) คณะกรรมการธนาคารดังกล่าวได้นัดกันยกทีมลาออกทั้งชุด

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: โลกใหม่ของวาติกันแบงก์

คอลัมน์ วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2557
ผู้เข้าชม : 6 คน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ระดับโลกของศาสนจักรคาทอลิกที่มีเมืองหลวงคือวาติกัน เกิดขึ้นที่ธนาคารวาติกันหรือ IOR (ฉายา ธนาคารของพระเจ้า)

คณะกรรมการธนาคารดังกล่าวได้นัดกันยกทีมลาออกทั้งชุด เพื่อเปิดทางให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ที่จะมีคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ประกอบด้วยวาณิชธนากรชื่อดังของฝรั่งเศส ฌอง-บัปติสต์ เดอ ฟรองซู ซึ่งเคยบริหารกิจการที่ปรึกษาการเงินทางด้านควบรวมกิจการมาแล้วโชกโชน เพื่อเข้ามาปฏิรูปสถาบันการเงินสำคัญของวาติกันเสียใหม่ ตามโครงการ “ทำความสะอาด” ของสันตะปาปา ฟรานซิส

การขับเคลื่อนเพื่อปฏิรูปให้วาติกันแบงก์ครั้งล่าสุดนี้ เป็นขั้นที่สองของยุทธศาสตร์ทำความสะอาดสถาบันการเงินสำคัญแห่งนี้ ที่เป็นความลับมายาวนานให้โปร่งใส เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของสาวกคาทอลิกที่สั่นคลอนอย่างหนักเพราะเรื่องอื้อฉาวหลายครั้งในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา จนมีคำถามว่า วาติกันแบงก์คือแหล่งฟอกเงินใหญ่ของบรรดามิจฉาชีพ

ที่น่าสนใจก็คือ การลาออกยกทีมของกรรมการ และการแต่งตั้งผู้บริหาร เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่วาติกันแบงก์ ได้ประกาศว่า งบการเงินที่ปรับปรุงแล้วของธนาคารในปีสิ้นงวด 2013 ที่ผ่านมา มีตัวเลขกำไรลดลงถึง 93% เนื่องจากความพยายามทำความสะอาดงบการเงินของสถาบันเอง

ก่อนหน้านี้ ตัวเลขในงบการเงินของวาติกันแบงก์ ระบุว่า ปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 86.6 ล้านยูโร แต่ในงบการเงินปรับปรุงใหม่นี้ ตัวเลขกำไรสุทธิเหลือเพียงแค่ 2.9 ล้านยูโร หรือ 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

กำไรสุทธิที่หดหายไปนี้ ได้รวมเอาการตัดบัญชีธุรกรรมต้องสงสัยทั้งหลาย ที่ทำให้ธนาคารหั่นทิ้งรายชื่อลูกค้าของธนาคารออกมามากถึง 300 รายชื่อ จากทั้งหมด 18,000 รายชื่อ หรือ 16.67% เลยทีเดียว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผ่านกระบวนวิธีการสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาว่าเป็นการบริจาคจากต่างแดนมาที่วาติกันแบงก์ ก่อนที่จะถูกนำไปใช้เพื่อการศาสนา แล้วออกมาเป็นเงินสะอาดที่ลูกค้าลึกลับทั้งหลายเอาไปใช้ได้โดยสะดวก พ้นเงื้อมมือของตำรวจและหน่วยงานปราบปรามฟอกเงินทั้งหลายในโลก

นอกจากนั้น ยังรวมถึงเงินที่ตัดสูญจากการยักยอกของคาร์ดินัลบางรูป 15 ล้านยูโร และ เงินค่าจ้างที่ปรึกษาการเงินที่เชี่ยวชาญในการตรวจสอบกลไกการฟอกเงินระหว่างประเทศอีก 7.3 ล้านยูโรด้วย

ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารคนล่าสุดของวาติกันแบงก์ ระบุว่า ภารกิจของตนเองคือ ดัดแปลงเจตจำนงของวาติกันแบงก์ให้เห็นองค์กรทางการเงินที่ให้บริการเน้นหนักเพื่อทำให้กลไกขององค์กรศาสนจักรคาทอลิกทั่วโลกขับเคลื่อนไปได้สะดวก ไม่ข้องแวะกับเรื่องราวอื้อฉาวของลูกค้าที่เป็นคนนอกแบบเดิมอีกต่อไปแบบในอดีต

การขับเคลื่อนครั้งล่าสุดนี้ เป็นห่วงโซ่ที่มีความหมาย หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วาติกันแบงก์ ได้บรรลุเป้าหมายใหม่ในการกอบกู้ภาพลักษณ์ ด้วยการลงนามเซ็นสัญญาเต็มรูป กับหน่วยงานตรวจสอบด้านฟอกเงินและต่อต้านก่อการร้าย Moneyval ในสังกัดของรัฐสภาแห่งสหภาพยุโรป ว่าพร้อมจะเปิดเผยบัญชีลูกค้า “ต้องสงสัย” ทั้งที่เป็นกลุ่มหรือบุคคลตามมาตรฐานของ FATF ของสหประชาชาติ และพร้อมให้ความร่วมมือในทุกขั้นตอนในการอายัดทรัพย์สินที่เปิดบัญชีไว้กับวาติกันแบงก์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ธนาคารวาติกัน ถูกกระแสบังคับให้ต้องปฏิรูปขนานใหญ่เพื่อฟื้นฟูศรัทธาของศาสนิกชนคาทอลิก กลับคืนมา แม้ว่าจะมีความพยายามแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อปีก่อน เอิร์นส ฟอน ไฟร์แบร์ก ผู้บริหารสูงสุดชาวเยอรมันของธนาคาร ออกมาแถลงข่าวขายขี้หน้าว่า หลังจากตรวจสอบละเอียดแล้วพบว่าบัญชีลูกค้าของ IOR หลายหมื่นราย เป็น “บัญชีสะอาดอย่างยิ่ง” อย่างไร้ยางอาย และพยายามปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ ซึ่งไม่มีใครเชื่อถือเพราะมีข้อมูลลับระบุมาก่อนหน้าแล้วว่า บัญชีเงินฝากทั้งหมดของลูกค้ากว่า 3 หมื่นราย ปรากฏว่ามีบัญชี “ต้องสงสัย” อย่างน้อยที่ต้องปิดระลอกแรกมากกว่า 900 ราย

ความพยายามของสันตะปาปา ฟรานซิส ในการกอบกู้ความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของวาติกันแบงก์ ให้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการขันติธรรมเป็นศูนย์สำหรับการฉ้อฉลเกี่ยวเนื่อง (zero tolerance for continued corruption) เพื่อไม่ให้พวกทุจริตในโลกนี้ แอบอิงศาสนจักรของพระเจ้าสำหรับการล้างบาปเงินที่ได้มาอย่างสกปรก หลังจากที่ศาสนจักรถูกกล่าวหามาแล้วมากมายในประวัติศาสตร์ นับแต่ยุคของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของอังกฤษหลังสงครามครูเสด เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ข้อตกลงร่วมมือต่อต้านการฟอกเงินและการก่อการร้าย ไม่เพียงแค่ทำให้วาติกันแบงก์สามารถประกาศว่า การฟอกเงินทุกชนิดคืออาชญากรรมและบาปมหันต์เท่านั้น ยังทำให้สามารถเปิดเผยตัวเลขทรัพย์สินของแบงก์อย่างโปร่งใสได้เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของวาติกัน

การปรับลดเป้าหมายธุรกรรมของวาติกันแบงก์โดยคณะเจ้าหน้าที่บริหารชุดล่าสุดให้แคบลง โดยยกเลิกธุรกรรมทางด้านวาณิชธนกิจทั้งหมดกับลูกค้าภายนอก และมุ่งเป้าไปที่ธุรกรรมทางด้านศาสนาเพื่อให้เงินบริจาคของสาวกคาทอลิกกระจายทั่วถึง คือรากฐานของการเปลี่ยนแปลงที่จะกินความลึกซึ้งในอนาคตอย่างมาก

ส่วนจะทำได้บรรลุเป้าหมายแค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไปในอนาคต

posted from Bloggeroid

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น