หุ้นไทยหมดช่วงขาลง
ฝรั่งซื้อหุ้น5.5พันล้าน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 358 คน 

ฝรั่งซื้อหุ้นกลับอย่างหนัก 5.5 พันล้านบาท ครั้งแรกในรอบหลายเดือน กูรูเชื่อส่งสัญญาณดีของการ cover หุ้นกลับคืน เปลี่ยนสถานะจากขายหนักเป็นซื้อหนัก  หลังจากต้นปีถึงปัจจุบันขายไป 8.7 หมื่นล้านบาท เปิดโผ 10 หุ้น NVDR ซื้อหนักในรอบ 3 วัน INTUCH-ADVANC-CPN ซื้อเยอะสุด

วานนี้ (27 มิ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,446.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.07 จุด หรือ 1.55% มีมูลค่าการซื้อขาย 61,930.76 ล้านบาท โดยมีปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่ม คือ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 205.33 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ  3,982.50 ล้านบาท, นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 5,590.52 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ 9,367.69 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ยอดนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 5.5 พันล้านบาท เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีเทขายหุ้นนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 มิ.ย. 2556 จำนวน 87,381 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขขายสุทธิที่กระจุกตัวอยู่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

“เราไม่ได้เห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหนักๆ แบบนี้นานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นแต่ฝั่งขายสุทธิมากกว่า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน่าจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของการซื้อกลับคืนเพื่อ cover ที่ขายไป ในทางกลับกันก็จะหยุดขายหลังจากที่เทขายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยยอดซื้อสุทธิครั้งนี้ไม่มีรายการบิ๊กล็อตเข้ามาเกี่ยวข้อง” นักวิเคราะห์ กล่าว

ทั้งนี้ หุ้นไทยถูกนักลงทุนต่างชาติขายหนักในช่วงที่ผ่านมา จนมีการประเมินว่าแรงขายน่าจะเบาบางลง และหยุดขายในที่สุด ซึ่งการหยุดขาย และซื้อคืนของนักลงทุนหลายพันล้านบาทแบบนี้ คงจะสร้างผลในเชิงบวกทางจิตวิทยา

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะผันผวนในกรอบแคบในแง่การทรงตัว เพราะดัชนีมีการปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ทั้งนี้ ยังมองว่าสถาบันต่างๆ เริ่มปรับลดจีดีพีภายในประเทศลงจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในระยะกลาง

เนื่องจากนักลงทุนทราบข่าวมาก่อนหน้านี้ และคงไม่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนี แต่ควรระมัดระวังการทำ window dressing เพราะหากดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นจนดัชนีถึงระดับ 1,500 จุด ก็มีความเสี่ยงในการเข้าซื้อมากขึ้นและกดดันต่อจิตวิทยาการลงทุนให้เทขายทำกำไรออกมาก่อน

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ขายเมื่อดัชนีอยู่ระดับ 1,460 จุด ถือเงินสด 50% และถือหุ้น 50% แล้วรอเข้าซื้อในรอบใหม่ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,425 จุด และแนวต้านที่ 1,492 จุด

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่ายอดการซื้อหุ้นสุทธิผ่านบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (NVDR) ตั้งแต่ช่วงวันที่ 24-26 มิถุนายน 2556 มีดังนี้ หุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซื้อสุทธิ 2,396.87  ล้านบาท, หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซื้อสุทธิ 1,270.31 ล้านบาท, หุ้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ซื้อสุทธิ 408.043 ล้านบาท

หุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ซื้อสุทธิ 379.97 ล้านบาท, หุ้นบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS ซื้อสุทธิ 298.28ล้านบาท, หุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ซื้อสุทธิ 235.82 ล้านบาท, หุ้นบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ซื้อสุทธิ 222.08 ล้านบาท

หุ้นบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ซื้อสุทธิ 134.62 ล้านบาท, หุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ซื้อสุทธิ 104.21 ล้านบาท และหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ซื้อสุทธิ 89.61 ล้านบาท

ขณะที่หุ้นขายสุทธิผ่านไทยเอ็นวีดีอาร์  ตั้งแต่ช่วงวันที่ 24-26 มิถุนายน 2556  มีดังนี้ หุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ขายสุทธิ 3,107.01 ล้านบาท, หุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ขายสุทธิ 413.96 ล้านบาท,หุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ขายสุทธิ 350.74 ล้านบาท, หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ขายสุทธิ 330.44 ล้านบาท

หุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ขายสุทธิ 240.06 ล้านบาท, หุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ขายสุทธิ 198.66 ล้านบาท, หุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ขายสุทธิ 167.97 ล้านบาท, หุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ขายสุทธิ 159.766 ล้านบาท, หุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ขายสุทธิ 154.63 ล้านบาท และหุ้นธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ขายสุทธิ 112.08 ล้านบาท