NWRกำไรQ2โต100%
บุ๊คพิเศษ120ล.คดีดูไบ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556ผู้เข้าชม : 7 คน
"NWR" ลุ้น Q2 กำไรโตก้าวกระโดด 100% จาก Q1 ที่มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เหตุบุ๊คกำไรพิเศษ 120 ล้านบาทคดีดูไบ การันตีรายได้ปีนี้เติบโต 30% แตะ 8,000ล้านบาท ตุนงานในมือ 7,800 ล้านบาท จ่อเซ็นเพิ่มอีก 4,200 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/56 ของบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR จะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการชนะคดีที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประมาณ 120 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาส 1/56 ที่มีกำไรสุทธิ 55.16 ล้านบาท
นายปสันน สวัสดิบุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ NWR เปิดเผยว่า บริษัทมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากลูกหนี้งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่ารวม 120 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทชนะคดีในชั้นอนุญาโตตุลาการแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลบังคับคดี หากได้รับเงินเข้ามาก็สามารถบันทึกเป็นกำไรพิเศษได้ทันที
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 20-30% แตะ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 7,270.15 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 7,800 ล้านบาท มีงานรอเซ็นสัญญา 4,200 ล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีก 1,000 ล้านบาท รวมถึงอยู่ระหว่างรอผลจากการประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้งานดังกล่าวจำนวนมากกว่า 50%
ส่วนโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ที่บริษัทเจรจากับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ว่าจะเข้าไปร่วมรับงานในฐานะผู้รับเหมาช่วงสำหรับ 5 โมดูล ที่กลุ่มบริษัท ITD power China JV ชนะประมูลนั้น เชื่อว่าหากได้รับงานมูลค่างานต่อสัญญาที่บริษัทจะได้รับนั้นคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
นายปสันน เปิดเผยต่อว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “บารานี ร่มเกล้า” ต้นปี 2557 มูลค่า 850 ล้านบาท หลังจากคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติซื้อตราสินค้า “บารานี” จากบริษัท เรือนรพี จำกัด โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการที่ “บารานี” เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในการประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรคุณภาพดี
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ โครงการ “วิลล่า บารานี” รังสิตคลอง 3 มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 198 ยูนิต ซึ่งคาดจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 45% ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถขายที่อยู่อาศัยภายใต้ตราสินค้าดังกล่าวได้ประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการอสังหาฯ อื่นๆ ยังมีโครงการร่วมทุนกับบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI ชื่อ ISSI Condominium ที่ถนนสุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท จำนวนทั้งหมด 892 ยูนิต เปิดขายเฟสแรก 500 ยูนิต หมดไปแล้ว คาดจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 2558 ส่วนโครงการ อิสระ ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ยังเหลืออีก 25% ที่จะโอนรับรู้รายได้ในปีนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น