EAกำไรก้าวกระโดด
ครึ่งปีแรกเติบโต125%
Q2 โชว์กำไร 55 ล้านบาท เติบโต 96%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556ผู้เข้าชม : 7 คน
หุ้นพลังงานบริสุทธิ์ (EA) โชว์กำไรไตรมาส 2 พุ่ง 55 ล้านบาท เติบโตเกือบ 100% ดันงวด 6 เดือนกำไรทะลุ 130 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 125% อย่างหรู หลังรับรู้กำไรจากการขายไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม 8 เมกะวัตต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกำไรจากไบโอดีเซลยังเติบโตต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ในช่วง 6 เดือนแรก จะมีกำไรสุทธิประมาณ 135 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.036 บาทต่อหุ้น ขณะที่กำไรสุทธิของไตรมาส 2/56 อยู่ที่ประมาณ 55 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.0147 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิช่วง 6 เดือนของปี 2555 อยู่ที่ 60 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2 ของปี 2555 อยู่ที่ 28 ล้านบาท
การเติบโตของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/56 จะมาจากกำไรจากการขายไบโอดีเซลจำนวน 30 ล้านบาท และกำไรจากการขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 25 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/55 จะมีกำไรจากการขายไบโอดีเซลจำนวน 28 ล้านบาท แต่ไม่มีกำไรการขายไฟฟ้า ทำให้อัตราการเติบโตของกำไรในไตรมาส 2/56 มีมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับกำไรไตรมาส 2/56 เติบโตขึ้น 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ขณะที่กำไรสุทธิ 6 เดือน เติบโตเพิ่มขึ้น 125% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตด้านกำไรที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ไม่นาน
ที่ผ่านมานายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม 8 เมกะวัตต์ จะรับรู้รายได้เต็มจำนวน ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิที่สูง โดยคาดการณ์ว่าทั้งปีจะสามารถทำได้ถึง 65 ล้านบาท และรายได้อีกส่วนหนึ่งยังมาจากยอดขายน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตไบโอดีเซลที่เพิ่มสูงมากขึ้น รวมถึงอัตรากำไรที่มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดนครสรรค์ 90 เมกะวัตต์ สามารถสร้างเสร็จและจ่ายไฟได้ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้ทันที ส่งผลให้รายได้รวมทั้งปีสูงขึ้น รวมถึงอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นอีกด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ จะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,586 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 915 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งงบลงทุนในช่วงเวลา 2 ปี (ปี 56-57) ไว้ที่ 6,680 ล้านบาท โดยจะใช้ลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ คือ โครงการ 90 เมกะวัตต์ ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 50% และโรงไฟฟ้าอีก 90 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อการก่อสร้างกว่า 2,400 ไร่ โดยจะสามารถเริ่มต้นการก่อสร้างในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งมีมูลค่าใกล้เคียงกับโครงการที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยรวมแล้วในปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนไปแล้ว กว่า 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครบ 4 แห่ง จะทำให้มีสัดส่วนรายได้ของการขายไฟฟ้ากับการขายน้ำมันปาล์มเป็น 50:50 และถ้าหากรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในอนาคตสัดส่วนรายได้ของพลังงานลมจะอยู่ที่ 40% ส่วนพลังงานแสงอาทิตย์และน้ำปาล์มจะอยู่ที่อย่างละ 30%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น