“ดีทรอยต์” ล้มละลาย
สัญญาณร้ายจากอเมริกา
รายงานพิเศษ วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2556ผู้เข้าชม : 9 คน
นครดีทรอยต์ได้ยื่นขอความคุ้มครองจากศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังจากที่เสื่อมโทรมมาเป็นเวลาหลายสิบปี นับเป็นความตกต่ำครั้งใหม่สำหรับเมืองที่เคยมีการนิยามว่า เป็นความยิ่งใหญ่ของชาติอุตสาหกรรมอย่างอเมริกา แต่ในขณะนี้กลับกลายเป็นเมืองร้างว่างเปล่าเพราะผู้คนและธุรกิจหนีไปอยู่ที่อื่นกันหมด
การขอล้มละลายของเมืองหลวงรถยนต์ และแหล่งเพลงในยุคเก่า ถือเป็นคดีล้มละลายของเทศบาลนครที่ใหญ่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ โดยดีทรอยต์มีหนี้มากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์
ความจริงแล้ว การล้มละลายไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับดีทรอยต์ ก่อนหน้านี้ บริษัทที่สำคัญที่สุดสองแห่งของอเมริกาคือ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และ ไครสเลอร์ กรุ๊ป ก็ได้เข้าและออกจากกระบวนการล้มละลายตามมาตรา 11 เมื่อปี 2552 จนต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไป 80,000 ล้านดอลลาร์ แต่เนื่องจากไม่มีการช่วยเหลือในแบบเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การขอล้มละลายเมื่อวันพฤหัสฯ จึงมีความแตกต่างในเชิงพื้นฐานและมีแนวโน้มไม่น่าไว้วางใจกว่ามาก
ดีทรอยต์เคยเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 18 ของสหรัฐ และเคยมีประชากรสูงสุดเกือบสองล้านคนในปีค.ศ.1950 แต่ทุกวันนี้เหลือประมาณ 700,000 คนเท่านั้น หลังจากที่มีการตัดเงินช่วยเหลือของรัฐและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลง จนส่งผลกระทบต่อรายได้จากภาษี ดีทรอยต์จึงต้องกู้เงินเพื่อให้เพียงพอต่อค่าดำเนินงานและหนี้ในระยะยาว เช่น เบี้ยบำนาญและประกันสุขภาพสำหรับพนักงานของเมือง
อัตราการว่างงานของดีทรอยต์ได้เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่านับตั้งแต่ปี 2543 และมากกว่าสองเท่าของอัตราเฉลี่ยของประเทศ
อัตราการฆาตกรรมก็สูงที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี และได้รับฉายาว่าเป็นเมืองที่อันตรายที่สุดเมืองหนึ่งในอเมริกาในรอบกว่า 20 ปี
ประชากรของเมืองนี้ต้องรอตำรวจรับโทรศัพท์นานเฉลี่ย 58 นาที เทียบกับอัตราเฉลี่ยในประเทศที่ใช้เวลาแค่ 11 นาที และมีการคลี่คลายคดีเพียง 8.7% เทียบกับค่าเฉลี่ยในรัฐซึ่งอยู่ที่ 30.5%
การขอล้มละลายตามมาตรา 9ต่อศาลแขวงตะวันออกของมิชิแกนมีขึ้น หลังจากที่ เควีน ออร์ ผู้จัดการฉุกเฉินของเมืองดีทรอยต์ ไม่สามารถตกลงกับผู้ถือพันธบัตรและเจ้าหนี้อื่นๆ ได้เพียงพอ ที่จะปรับโครงสร้างหนี้ของดีทรอยต์นอกศาลได้ และการตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับ ริค สไนเดอร์ ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งเป็นคนแต่งตั้งออร์ เป็นผู้ตรวจสอบการเงินของเมืองเมื่อเดือนมีนาคม
ผู้ว่าการสไนเดอร์ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ลำบากและเจ็บปวด แต่เชื่อว่า ไม่มีทางเลือกอื่นที่สามารถทำได้แล้ว
ดีทรอยต์ และเมืองใกล้เคียงเคยเป็นซิลิคอน วัลเลย์ของช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เหมือนกับแคลิฟอร์เนียในทุกวันนี้ ซึ่งได้เป็นเบ้าหลอมนวัตกรรมทางสังคมและอุตสาหกรรม
เฮนรี ฟอร์ด ทำสายประกอบรถยนต์สำหรับโมเดล ที ที่นี่ ในขณะที่จีเอ็ม พัฒนากลยุทธ์การบริหารและการตลาดที่กลายเป็นโมเดลของบริษัทระดับโลกสมัยใหม่ สหภาพแรงงานรถยนต์(UAW) ได้จัดตั้งพนักงานและต่อรองค่าแรงและผลประโยชน์เพื่อตอบโต้ต่ออำนาจของบริษัทรถยนต์ จนกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคนงานในอุตสาหกรรมอื่นๆ
ในปี ค.ศ. 1960-69 ดีทรอยต์เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดเพลงป็อปในโมทาวน์ ซึ่งได้ปั้นดาวเด่นอย่าง มาร์วิน เกย์, เดอะ สุพรีมส์, สโมกกี้ โรบินสันและคนอื่นๆ และล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ รายการทีวีและวิดีโอของนักร้องแพลงแร็พ อย่างเอ็มมิเนม ได้ใช้ภูมิทัศน์ตามถนนหนทางของเมืองเป็นฉากหลัง
ผู้ที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ เปิดเผยว่า ได้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขอล้มละลายในวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม แต่มีการดำเนินการเร็วขึ้นมาหนึ่งวันเพราะมีแรงกดดันจากการฟ้องร้องหลายคดี ซึ่งรวมถึงการฟ้องร้องของกองทุนบำนาญแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันพุธที่พยายามขัดขวางการขอล้มละลาย และมีข่าวรั่วเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อขอล้มละลาย
เอกสารในการขอล้มละลายในตอนแรกระบุเพียงว่า ทรัพย์สินและหนี้สินของเมืองดีทรอยต์แต่ละรายการ เกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ แต่ในจดหมายของผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ดีทรอยต์มีหนี้มากกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์
ความสามารถที่จะกู้ยืมของดีทรอยต์ปิดตายลงโดยสิ้นเชิงหลังจากที่บริษัทจัดอันดับให้สถานะขยะแก่พันธบัตรของเมือง และมีขีดจำกัดที่จะเก็บภาษีคนในเมืองเพื่อระดมรายได้ใหม่ๆ และเมื่อเร็วๆนี้ไม่สามารถชำระเงินเกือบ 40 ล้านดอลลาร์ให้กับระบบบำนาญของเมืองได้
จนถึงขณะนี้ ดีทรอยต์ได้ตกลงจ่ายเงินให้เจ้าหนี้บางราย 75 เซนต์ต่อดอลลาร์ สำหรับหนี้เกือบ 340 ล้านดอลลาร์ ในการแลกเปลี่ยนกันนี้ ดีทรอยต์จะได้รับรายได้จากภาษีกลับคืนมา 11 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนจากคาสิโนสามแห่งในเมืองที่เดิมทีภาษีก้อนนี้ใช้เป็นการค้ำประกันหนี้ อย่างไรก็ดี การเจรจากับเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ยังคงค้างคาอยู่
การล้มละลายของดีทรอยต์ ทำให้เกิดความวิตกเป็นพิเศษในตลาดพันธบัตรเทศบาล เพราะตราสารหนี้ประเภทนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดอย่างหนึ่ง โดยนักวิเคราะห์มองว่า อาจทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมของเมืองอื่นๆทั่วมิชิแกน และแม้แต่ในสหรัฐ สูงขึ้น
การเคลื่อนไหวต่อไปของดีทรอยต์ คือ เจ้าหนี้ต้องผลักดันให้ขายสินทรัพย์ของเมือง และกำหนดความสำคัญของผู้ถือพันธบัตรที่จะได้รับการชำระหนี้คืน
ประชาคมธุรกิจในดีทรอยต์ ยังคงแสดงความเห็นต่อการยุติความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตทางการเงินของเมืองดีทรอยต์ในด้านบวก โดยจีเอ็มไม่คาดว่า จะมีผลกระทบใดๆต่อการดำเนินงานของบริษัท และยังภาคภูมิใจที่จะเรียกดีทรอยต์ว่าเป็นบ้าน และยังถือว่าเป็นการเริ่มต้นทำความสะอาดให้กับเมือง
อย่างไรก็ดี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในดีทรอยต์จำนวนมาก อาจจะได้รับผลกระทบจากการฟ้องร้องที่กินเวลายาวนาน และ คนที่เสี่ยงมากที่สุดคือคนที่พึ่งบำนาญของเมืองนี้
โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดี และทีมเจ้าหน้าที่อาวุโส ยังคงจับตาสถานการณ์ในดีทรอยต์อย่างใกล้ชิด
บางทีการล้มละลายของดีทรอยต์ อาจจะเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง..น่าจะมีอีกหลายเมืองที่รอวันโผล่พ้นน้ำมาให้เราได้เห็น และถ้าเป็นเช่นนั้น มันน่าจะเป็นสัญญาณร้ายจากอเมริกาที่จะต้องส่งผลกระทบต่อทั่วโลกอย่างแน่นอน
--------------------------
(กราฟฟิก)
เสื่อมถอยมานาน
- ประชากรของดีทรอยต์ลดลงมากกว่า 26% ในช่วงปี 2543-2555 และเหลือแค่ประมาณ 700,000 คน จากเกือบ 2 ล้านคนในปี 2493
- สิ่งปลูกสร้างหรือที่ดินประมาณ 40,000 แห่งรกร้างว่างเปล่า
- มีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับ 100 ล้านดอลลาร์ทุกปีนับตั้งแต่ปี 2551
- 36% ของชาวดีทรอยต์ถือว่ายากจนในช่วงปี 2550-2554
- ในปี 2555 ดีทรอยต์มีอัตราการก่ออาชญากรรมรุนแรงสูงที่สุดสำหรับเมืองที่มีผู้อาศัยมากกว่า 200,000 คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น