วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประกันใบโพธิ์ลุยอสังหาฯ


ประกันใบโพธิ์ลุยอสังหาฯ

กองทุนรวม ประกัน วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2556
ผู้เข้าชม : 3 คน

SCBLIFE กวาดกำไรจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 5% ยังคงแผนการลงทุน ยังไม่ปรับพอร์ตเพิ่มสัดส่วนหุ้น เหตุยังมีความเสี่ยงมาก แต่จะเพิ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนเป้าหมายหลักยังเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5%ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 100,000 ล้านบาท แม้เป้าหมายดังกล่าวอาจจะน้อยกว่าช่วงปีที่ผ่านมาที่ทำได้สูงเกือบ 6% แต่ด้วยภาวะความผันผวนที่เกิดขึ้นในปีนี้ ถือว่าระดับผลตอบแทนดังกล่าวเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว
แผนการลงทุนในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ ยังคงสัดส่วนเดิม คือ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนประมาณ 90% ลงทุนในตราสารทุนและอสังหาริมทรัพย์ 9% ที่เหลืออีก 1% ลงทุนด้านเงินฝาก
พร้อมกันนี้บริษัทยังคงนโยบายการลงทุนเดิม โดยเฉพาะแผนการลงทุนในตราสารทุนและกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เพดาน 9% แม้ช่วงที่ผ่านมาภาวะการลงทุนจะมีความผันผวนค่อนข้างมากจนมีการปรับฐานลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและหุ้นทั่วโลกนับจากนี้ ยังคงมีความเสี่ยงสูงและการทำกำไรจากการลงทุนไม่ง่ายเหมือนช่วงที่ผ่านมา
และเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากตลาดทุน บริษัทอาจมีการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและหันมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์แทน โดยคงเพดานการลงทุนทั้งตราสารทุนและอสังหาริมทรัพย์รวมเพดานเดิมที่ 9% ส่วนการลงทุนในตราสารทุน บริษัทยังคงให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการให้เช่นเดิม
ทิศทางการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการลงทุนเพื่อลดความเสายงและสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเสนอขายแก่ลูกค้า แม้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำก็ตาม อย่างไรก็ตาม พันธบัตรระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนดีในท้องตลาดมีน้อยลง บริษัทมองว่าควรหันมาลงทุนในหุ้นกู้เอกชนชั้นดีเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มช่องทางในการลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วย
นายวิพล กล่าวว่า แผนการออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ณ ปัจจุบันไม่มีแผนการดังกล่าว ล่าสุด บริษัทได้เสนอข้อดีของการคงอยู่ในตลาดฯแก่ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในฐานะบริษัทแม่ ซึ่งทางบริษัทแม่ก็เห็นด้วยในขณะนี้ ส่วนเรื่องอนาคตขึ้นกับความเห็นชอบของผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นหลัก
ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 917 ล้านบาทถึง 31% ถือได้ว่าเป็นปีที่มีผลกำไรในช่วงไตรมาสแรกที่พุ่งสูงขึ้นแตะพันล้านได้เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ของบริษัท ด้านกำไรสุทธิต่อหุ้น 18.10 บาท ก็ขยับเพิ่มขึ้น 31% จาก 13.79 บาท ของงวดเดียวกันเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน
ด้านฐานะการเงินหลักปรับเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ 10,233 ล้านบาท มาจากเบี้ยประกันรับสุทธิ 10,888 ล้านบาท เติบโต 18% จาก 9,248 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการลงทุนสุทธิ 1,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทำได้ 978 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 8.6 ล้านบาท
นายวิพล กล่าวว่า ผลประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้ฐานะการเงินของบริษัทมั่นคงยิ่งขึ้น โดยสินทรัพย์รวมขยับเป็น 121,917 ล้านบาท เพิ่มจาก 116,281 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 มีสินทรัพย์ลงทุนทั้งสิ้น 114,460 ล้านบาท คิดเป็น 93.88% ของสินทรัพย์รวม เงินสำรองประกันชีวิต เพิ่มขึ้นเป็น 106,604 ล้านบาท จาก 100,284 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 และมีเงินกองทุน 25,960 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น