BANPUเศร้า!
กูรูหั่นเป้าราคา
เหลือ220บาท
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 ผู้เข้าชม : 8 คน
"บ้านปู" ซื้อหุ้นคืนครบโควตา 13.5 ล้านหุ้น ก่อนกำหนด ใช้เงินซื้อรวม 3,954 ล้านบาท จ่อชงบอร์ดพิจารณาแผนขายหุ้นซื้อคืน ฟากโบรกฯ หั่นราคาพื้นฐานลงอีก 100 บาท เหลือเป้าหมายหุ้นแค่ 220 บาท หวั่นปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย
นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 13.56 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดตามโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน รวมใช้เงินซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้น 3,954 ล้านบาท
โดยโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทสิ้นสุดลงไปตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนจะเริ่มได้ภายหลังกำหนด 6 เดือน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งบริษัทจะนำเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดวันและระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นซื้อคืนและจะแจ้งให้ได้ทราบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ครบกำหนดเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนแล้ว บริษัทไม่ได้จำหน่ายหุ้นหรือจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนไม่หมด BANPU อาจพิจารณาลดทุน โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนออกมาตามที่ได้เคยแจ้งไว้ในแบบรายงาน
สำหรับโครงการซื้อหุ้นคืนของ BANPU เคยประกาศเงื่อนไขการซื้อหุ้นไว้ไม่เกิน 13.56 ล้านหุ้น โดยกำหนดวงเงินสูงสุดเพื่อที่ใช้รองรับแผนซื้อหุ้นคืน 6,150 ล้านบาท และใช้วิธีการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในช่วงระหว่างช่วงวันที่ 15 มี.ค.-14 ก.ย. 2556
ทั้งนี้จากการสำรวจรายงานการซื้อหุ้นคืนของ BANPU เริ่มต้นครั้งแรกในช่วงวันที่ 15 มี.ค. 2556 ด้วยการซื้อหุ้นจำนวน 30,000 หุ้น ราคาซื้อสูงสุดในช่วงวันนั้น ที่ 383 บาท และราคาต่ำสุด 382 บาท มูลค่ารวม 11.48 ล้านบาท ส่วนการซื้อหุ้นคืนครั้งสุดท้ายของ BANPU เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา มียอดซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 250,000 หุ้น ราคาซื้อหุ้นที่สูงสุด 242 บาท และราคาซื้อต่ำสุดที่ 237 บาท มูลค่า 59,882,500 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BANPU ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 จนล่าสุดวานนี้ (17 ก.ค.) พบว่า ราคาหุ้น BANPU ปรับตัวลดลงไปแล้วถึงกว่า 81% โดยทำราคาปิดการซื้อขายวันแรกของปี (2 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 422 บาท ส่วนราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 233 บาท ดังนั้น ราคาหุ้นล่าสุดจึงยังคงต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (บุ๊คแวลู) ของบริษัทที่ระดับ 292 บาท
ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) หุ้นของ BANPU ในช่วงต้นปีอยู่ที่ 1.14 แสนล้านบาท ทยอยปรับตัวลดลงตามราคาหุ้นในตลาดฯ จนล่าสุดมีมาร์เก็ตแคปหุ้นคงเหลือเพียง 6.3 หมื่นล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการราคาถ่านหินและมีการปรับลดสมมุติฐานราคาถ่านหินในงวดปี 2556 และปี 2557 ลง 3.4% ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดมูลค่าพื้นฐานของ BANPU เหลือ 220 บาท จากเดิม 320 บาท และยังคงคำแนะนำ “ถือ”
โดยหลังจากปริมาณซัพพลายของถ่านหินมีการเติบโตที่ระดับ 2 หลัก ทำให้ภาวะโอเวอร์ซัพพลายในตลาดส่งผลกดดันต่อราคาขายของถ่านหิน และเป็นเหตุผลที่ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการราคาในปี 2556-2557 นอกจากนี้ ยังปรับลดประมาณกำไรในปี 2556 ลง 20% และงวดปี 2557 ลงอีก 40%
อย่างไรก็ตาม ภายในช่วงสัปดาห์นี้ ฝ่ายวิเคราะห์จะมีการเข้าเยี่ยมชมเหมืองของ BANPU และจะมีการอัพเดตภายหลังหากพบสิ่งที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังพบอีกว่า ปัจจุบันสัดส่วนการถือครองหุ้น BANPU โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เหลือเพียง 27% จากเดิม 66% ในช่วงปี 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น