วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

3หุ้นเด่นวิ่งรับ นโยบายกพช. ชี้อนาคตสดใส


3หุ้นเด่นวิ่งรับ
นโยบายกพช.
ชี้อนาคตสดใส

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 7 คน 

3 หุ้นเด่น "PTT-UAC-GUNKUL" วิ่งขานรับนโยบายกพช. โบรกฯจ่อปรับเป้าราคาใหม่ PTT ที่ 434 บาท กรณีขึ้นราคา LPG ครัวเรือน 1 ก.ย.นี้ ด้าน UAC เล็งศึกษาแผนตั้งโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ส่วน GUNKUL จ่อรุกตลาดโซลาร์เซลล์บนหลัง

                ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบแนวทางปรับราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือนใหม่ ซึ่งปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/กก. ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ รวมถึงปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินว่า หากการปรับราคา LPG ในเดือนก.ย.นี้ มีผลบังคับใช้และไม่มีการเลื่อนออกไป จะส่งผลให้ประมาณการกำไรงวดปี 2556 ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เพิ่มขึ้นเป็น 116,482 ล้านบาท จากเดิม 115,742 ล้านบาท อีกทั้งปรับเพิ่มกำไรในงวดปี 2557 มาอยู่ที่ 132,565 ล้านบาท จากเดิมคาด 123,285 ล้านบาท
                โดยอยู่ภายใต้สมมุติฐานยอดใช้ LPG ภาคครัวเรือนเดือนละ 2 แสนตัน ปัจจุบันปริมาณการใช้ LPG ภาคครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 6,600 ตันต่อวัน ลดลงจากช่วงต้นปี ที่ 8,700-8,800 ตันต่อวัน และเบื้องต้นยังประเมินราคาเป้าหมายใหม่เป็น 434 บาท จากเดิม 409 บาท
                อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ของ PTT ไว้ที่ 115,742 ล้านบาท และยังคงมูลค่าพื้นฐานปีนี้แบบเชิงอนุรักษนิยมที่ 409 บาท โดยจะเข้าประชุมกับผู้บริหารถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/56 ซึ่งอาจมีการปรับประมาณการใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขึ้นราคา LPG หลังจากการปรับราคาจะกระทบประชาชนในวงกว้าง
                แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว ราคา LPG และ NGV จะถูกปรับลอยตัวเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและรองรับ AEC ช่วงปลายปี 2558 โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด Discount เมื่อเทียบกับภูมิภาค และซื้อขายที่ Forward PER 8.29 เท่า เมื่อเทียบกับภูมิภาคที่ 11.5 เท่า จึงกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ”
                ขณะที่นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า อนาคตบริษัทมีโอกาสที่จะลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้หญ้าเนเปียร์เป็นวัตถุดิบ หลังจากภาครัฐออกนโยบายปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังทดแทนมากขึ้น
                ดังนั้น จึงถือเป็นเครื่องยืนยันว่า รูปแบบธุรกิจและแผนการดำเนินงานของบริษัทที่กำหนดไว้ กำลังเดินหน้ามาถูกทางแล้ว ซึ่งอนาคต UAC มีความสนใจที่จะตั้งโรงไฟฟ้าขนาด 1 เมกะวัตต์ โดยใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เริ่มนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงาน UAC ไปแล้ว
                นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งหน้าที่จะขยายการลงทุนในโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง หรือ CBG รองรับความต้องการใช้เชื้อเพลิงในภาคคมนาคมมากขึ้น หลังจากภาครัฐมีนโยบายที่จะกระจายเชื้อเพลิงประเภท CBG ออกไปในพื้นที่ห่างไกลจากท่อก๊าซธรรมชาติ
                ส่วนน.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทแสดงความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาการทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ Solar Rooftop โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายประเภทกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก
                อีกทั้งหากอุตสาหกรรมพลังงานมีการเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลประโยชน์ต่อส่วนธุรกิจเทรดดิ้งของ GUNKUL และส่งผลให้มีโอกาสได้รับออเดอร์งานเกี่ยวกับอุปกรณ์โรงไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มเติม  ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 60 เมกะวัตต์ ที่ตำบลห้วยบง จังหวัดนครราชสีมา จะมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2557 และยังมีแผนที่จะลงทุนในโครงการไฟฟ้าจากพลังงานลมเพิ่มเติมอีกในอนาคต

กพช.ลงมติขึ้นราคา LPG ครัวเรือน
            ที่ประชุมกพช. ซึ่งมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม วานนี้ (16 ก.ค.) เห็นชอบแนวทางปรับราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือนใหม่ โดยให้ปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 เป็นต้นไป จนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาท/กก. ภายในปี 2557
                อีกทั้งเห็นชอบการปรับค่าเป้าหมายตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ.2555-2564) หรือ AEDP ให้สอดคล้องตามแผนการบูรณาการยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) โดยเพิ่มเป้าหมายผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเป็น 1,800 เมกะวัตต์ จากเดิม 1,200 เมกะวัตต์ พลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเป็น 3,000 เมกะวัตต์ เดิม 2,000 เมกะวัตต์ พลังงานน้ำ ลดเหลือ 324 เมกะวัตต์ เดิม 1,608 เมกะวัตต์
                พลังงานชีวมวลเพิ่มเป็น 4,800 เมกะวัตต์ เดิม 3,630 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพเพิ่มเป็น 3,600 เมกะวัตต์ เดิม 600 เมกะวัตต์ พลังงานขยะเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ เดิม 160 เมกะวัตต์ พลังงานรูปแบบใหม่คงเดิมที่ 3 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมดคิดเป็น 13,927 เมกะวัตต์ จากเดิม 9,201 เมกะวัตต์
                นอกจากนี้ ยังจัดให้มีปริมาณรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาในปี 2556 รวม 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นบ้านอยู่อาศัย 100 เมกะวัตต์ และอาคารธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่อีก 100 เมกะวัตต์ โดยให้มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค. 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น