ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2557
จับตา JAS ลดทุนจดทะเบียน ด้วยวิธีการตัดหุ้นที่ซื้อคืนทิ้งไป หลังซื้อหุ้นคืนทั้งหมด 142.73 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 989.70 ล้านบาท คิดเป็น 2% ราคาซื้อคืนสูงสุด 8.50 บาท โบรกเกอร์ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์จากปันผลเพิ่มขึ้น
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า บริษัทสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน จากผลการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.-18 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 142.73 ล้านหุ้น คิดเป็น 2% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด มูลค่ารวมทั้งสิ้น 989.70 ล้านบาท
โดยจำนวนการซื้อคืนดังกล่าว ถือว่าไม่เกินวงเงินตามที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติไว้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 57 ที่กำหนดให้ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด 7,137,394,378 หุ้น คิดเป็นจำนวนหุ้นไม่เกิน 713,739,437 หุ้น วงเงินสูงสุดที่ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และการซื้อหุ้นคืนจะซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยบริษัทซื้อหุ้นคืนภายใน 6 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.-24 ธ.ค. 57)
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนสามารถทำได้ ภายหลัง 6 เดือน นับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้น ในกรณีบริษัทไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในอายุโครงการ เมื่อพ้นกำหนดนั้นแล้ว บริษัทจะลดทุนที่ชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและมิได้จำหน่ายทั้งหมด ถือว่าเป็นไปตามกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดวันจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนและแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
แหล่งข่าววงการเงิน ระบุว่า สุดท้ายแล้วเชื่อว่า JAS จะไม่มีการขายหุ้นที่ซื้อคืนออกมาอย่างแน่นอน และเลือกใช้วิธีการลดทุนด้วยการตัดหุ้นที่ซื้อคืน 142.73 ล้านหุ้นทิ้งไป (ลดทุน 142 ล้านบาท) โดยวิธีการดังกล่าวเป็นเป็นวิธีเดียวกับช่วงเดือนมกราคม 2556 JAS มีการซื่อหุ้นคืนและดำเนินการลดทุนชำระแล้วจาก 3,622,125,689 บาท เป็น 3,568,697,189 บาท โดยการตัดหุ้นที่ซื้อคืนบริษัท 106,857,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 0.50 บาท รวม 53,428,500 บาท
เช่นเดียวเมื่อปี 2554 ที่ JAS มีการซื้อคืนหุ้น 155,240,000 หุ้น หรือ 2.10% ของหุ้นทั้งหมด โดยไม่มีการขายหุ้นออกมาแต่ใช้วิธีการลดทุนจดทะเบียน ด้วยการตัดหุ้นจดทะเบียนจาก 7,399,491,378 หุ้น เป็น 7,244,251,378 หุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าหุ้น JAS ทางอ้อมเช่นกัน
บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า การลดทุนด้วยการตัดซื้อหุ้นคืนทิ้งไป ทำให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นและเมื่อหุ้นในตลาดน้อยลง ทำให้ผู้ถือหุ้นได้ประโยชน์เรื่องเงินปันผลมากขึ้น ส่วนกรณีที่บริษัทไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในอายุโครงการ และต้องทำการลดทุนนั้นเป็นกระบวนการปกติที่ต้องลดทุนจดทะเบียนลง
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ประเมินว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/57 ธุรกิจปกติจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่จะชะลอตัวเล็กน้อย 3% เทียบไตรมาสก่อนจากฐานค่าใช้จ่ายสูงกว่าไตรมาสอื่น ทั้งนี้อยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณการจากเดิม เบื้องต้นประมาณการใหม่ปี 2557-2560 เพิ่มจากเดิม 6-7% จะเป็นอัพไซด์ส่วนเพิ่มต่อมูลค่าเหมาะสม 8.15 บาท
ทั้งนี้ ช่วง 9 เดือนแรกปี 2557 JAS มีกำไรสุทธิ 2,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 2,246 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานธุรกิจปกติช่วง 9 เดือนแรกปี 2557 คิดเป็น 80% ของทั้งปี
ก่อนหน้านี้นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2557 มั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 11,260 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตมากกว่าปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,002 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง