Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง
9ธันวาคม 2557



ชื่อ:  กาแฟ.PNG
ครั้ง: 8573
ขนาด:  213.0 กิโลไบต์






General News
------------------


• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเดือน ต.ค. ขยายตัว 0.2% ชะลอตัวลงจาก 1.1% ในเดือน ก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4% แสดงว่าเศรษฐกิจยังคงมีแรงกดดัน แม้ว่ายอดคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด



• อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ให้สัมภาษณ์ว่า มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ฝรั่งเศสและอิตาลีกำลังดำเนินการอยู่นั้นยังไม่ เพียงพอ จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิรูปให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น


• ซาอุดิอาระเบีย ประกาศว่า ได้จับกุมผู้ก่อการร้าย 135 คน ประกอบด้วยชาวซีเรีย 16 คน ซึ่งวางแผนโจมตีประเทศที่มีทรัพยากรน้ำมัน


• ญี่ปุ่น รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 หดตัวลง 1.9% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 1.6% ส่วนบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยข้อมูลล่าสุดในเดือน ต.ค. มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 8.334 แสนล้านเยน



อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าญี่ปุ่นจะฟื้นการเติบโตในระดับพอประมาณได้ใน ไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและธุรกิจกำลังฟื้นตัวจากมาตรการขึ้นภาษี และการส่งออกมีแนวโน้มว่าได้ตกถึงจุดต่ำสุดแล้ว



นอกจากนี้ GDP หดตัวก็ไม่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และคาดว่าพรรคแอลดีพี ของอาเบะ จะได้รับเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก โดยโพลระบุว่าแอลดีพีจะกวาดที่นั่งในสภาล่างได้ 303-320 จาก 475 ที่นั่ง ซึ่งถ้าได้ 317 ที่นั่งขึ้นไปพรรคแอลดีพีในสภาล่างจะลบล้างมติของสภาสูงได้ อันจะทำให้อาเบะสามารถผลักดันอาเบะโนมิส์ต่อไป



• เหลียง ชุน-หยิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พร้อมรับมือกับผู้ประท้วงในเขตแอ็ดไมรัลตี้อย่างเต็มที่โดยปฏิเสธข้อเรียก ร้องจากแกนนำนักศึกษาที่ต้องการให้ปฏิรูปการเมือง และชี้ว่าการประท้วงเช่นนี้เป็นการยกเลิกกรอบดำเนินการเลือกตั้งที่จีนกำหนด ให้เป็นปี 2560


• ยอดส่งออกของจีนเดือน พ.ย. อยู่ที่ 2.12 แสนล้านดอลลาร์ ขยายตัว 4.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดนำเข้าหดตัวลง 6.7% เหลือ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในประเทศยังคงชะลอตัวอยู่



• คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของไต้หวันได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งแล้ว หลังจากที่พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) พ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วประเทศเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ เหมา จื้อกั๋ว นายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะรับมือกับอุปสรรคท้าทายต่างๆ ในอนาคตด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พร้อมกับจะทำความเข้าใจกับความต้องการและความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และภาคธุรกิจต่างๆ


• World Bank ลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของอินโดนีเซียในปี 2015 ลงจาก 5.6% เหลือ 5.2% เนื่องจากการส่งออกและการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลง


• ฟิลิปปินส์ประกาศหยุดการเรียนการสอนและการทำงานของหน่วยงานรัฐในเมืองมะนิลา เนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "ฮากุปิต"



• ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ไม่เกิน 2% และทั้งปีจะขยายได้ไม่ถึง 1% เนื่องจากส่งออกอาจไม่ขยายตัว ส่วนปีหน้าจะขยายตัวได้ 3%-5% เพราะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวทำให้การส่งออกที่เป็นต้วขับเคลื่อนหลัก ของเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แต่ยังกังวลเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีของรัฐบาลโดยเฉพาะภาษี VAT เพราะหากเพิ่มขึ้นมากเกินไปอาจเกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอยแบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องการเพิ่มราคาพลังงาน การจัดเก็บภาษีมรดก การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตหลายประเภท


• นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบตในลาดโลกปมีแนวโน้มลดลงอาจทำให้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1-2 ครั้ง ขณะที่ FED อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2-4 ปีหน้า ซึ่งจะกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นไปอีก และอาจขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 2 ในปี 2559


• ปลัด ก.พลังงาน มีมติให้โครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อ 153 ราย กำลังผลิต 875 เมกะวัตต์ ที่ยังติดปัญหาเรื่องสายส่งและผังเมืองไปแก้ปัญหาต่างๆ และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้ทันภายใน 31 มี.ค. 2558 หากดำเนินการไม่ทันก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที


• พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมต. กระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าดังนี้


o โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (มีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม) อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม และคาดว่าจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในเดือน ม.ค. 2558


o โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งโครงการจะมีการเริ่มเปิดประมูลแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเสนอให้ ครม. รับทราบ


o โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) คาดว่าจะมีการดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จไม่เกินกลางปีหน้า


Equity Market
------------------


• SET Index ปิดที่ 1,575.55 จุด ลดลง 22.21 จุด (-1.39%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 61,340.64 ล้านบาท โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดของวัน ที่ 1,603.89 จุด และลดลงในช่วงท้ายของการซื้อขายของวัน จากการขายทำกำไรของนักลงทุนประเภทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (Prop Trade) หลังจากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1600 จุด


สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)


นักลงทุนสถาบัน +128.64
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -1,417.59
นักลงทุนต่างชาติ +1,786.82
นักลงทุนทั่วไป - 497.86


Fixed Income Market
----------------------------


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลง 0.00% ถึง 0.04% มูลค่าการซื้อขาย 88,305.51 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 15 ปี มูลค่า 9,000 ล้านบาท