วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จีอีขายBAYจบแล้ว ตลท.ขึ้นเอสพีวันนี้ มิตซูฯถือหุ้น 51% เทนเดอร์ฯ 40-41 บาท

จีอีขายBAYจบแล้ว
ตลท.ขึ้นเอสพีวันนี้
มิตซูฯถือหุ้น 51% เทนเดอร์ฯ 40-41 บาท

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 02 กรกฎาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 12 คน 

วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์แบงก์กรุงศรีฯ หรือ BAY เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (กลุ่มจีอี) เผยกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล หรือ MUFG จะถือหุ้นใหญ่ใน BAY มากกว่า 50% ขณะที่ราคาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์จะอยู่ประมาณ 40-41 บาท

มีรายงานข่าวว่า วันนี้ (2 ก.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของ BAY
“การเจรจาระหว่างกลุ่มจีอี และ MUFG เสร็จแล้ว วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้น SP” แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโด และหนังสือพิมพ์นิกเกอิของประเทศญี่ปุ่น ต่างรายงานตรงกันว่า กลุ่ม MUFG บรรลุข้อตกลงในขั้นตอนสุดท้ายในการซื้อหุ้น BAY จากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยคาดว่า MUFG จะเข้าถือหุ้นมากกว่า 50% หรืออาจประมาณ 51% และมูลค่าดีลในครั้งนี้อยู่ประมาณ 4.1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.27 แสนล้านบาท
ปัจจุบัน กลุ่มจีอีถือหุ้นอยู่ใน BAY ราว 25.3%
ก่อนหน้านี้ กลุ่มจีอีขายหุ้นออกไปแล้วบางส่วนให้กับนักลงทุนประเภทสถาบัน หรือกองทุนราว 7-8% แต่ไม่ได้ระบุว่า เป็นสถาบันใดบ้างที่เข้ามารับซื้อ
การถือหุ้นในธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทยเกินกว่า 25% แต่ไม่เกิน 49% ต้องได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่หากเกินกว่า 49% กระทรวงการคลังจะเป็นผู้อนุญาต
แหล่งข่าวยืนยันว่า กลุ่มมิตซูฯ จะถือหุ้นใน BAY เกินกว่า 50% หรือ 51% ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มมิตซูฯ จะเข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มจีอีทั้งหมด 23.3% และจากกลุ่มอื่นๆ รวมถึงการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ หุ้นที่เหลือทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้จะมีในส่วนของ “กลุ่มรัตนรักษ์” ด้วย
ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่า จะทำเทนเดอร์ฯ แบบบางส่วน หรือ Partial Tender Offer นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาต้องการถือหุ้นเกิน 49% ซึ่งตามเกณฑ์ของทางการไทย จะต้องทำเทนเดอร์ฯทั้งหมด
กลุ่มมิตซูฯ บอกด้วยว่า ราคาทำเทนเดอร์ฯ จะใช้ราคาเดียวกันกับที่ซื้อจากกลุ่มจีอี หรือประมาณ 40-41 บาท
นายโนบูยูกิ ฮิราโนะ ประธานกรรมการของ MUFG กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกำลังมองหาโอกาสเพื่อเข้าซื้อกิจการของธนาคารเอเชียแห่งหนึ่ง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของ MUFG ในภูมิภาค เหมือนกับที่ MUFG ประสบความสำเร็จในสหรัฐกับธนาคารยูเนียนแบงก์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่บรรดาธนาคารญี่ปุ่นกำลังเน้นการทำธุรกิจนอกเหนือจากกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ (wholesale) เพื่อเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย (retail) ขนาดกลาง และขนาดย่อมในท้องถิ่นในเดือนที่แล้ว MUFG บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้น 40% ในธนาคาร  BTPN ของอินโดนีเซีย ด้วยวงเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น