วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

'CPALL'รีไฟแนนซ์หนี้ ลดต้นทุนภาระดอกเบี้ย ปีนี้ทุ่มงบลงทุน 9 พันล้าน ลั่นยอดขายโต 15%

'CPALL'รีไฟแนนซ์หนี้
ลดต้นทุนภาระดอกเบี้ย
ปีนี้ทุ่มงบลงทุน 9 พันล้าน ลั่นยอดขายโต 15%

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 05 มีนาคม 2557 
ผู้เข้าชม : 11 คน 

CPALL เตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท เสนอขายวันที่ 24-26 มี.ค.นี้ นำเงินรีไฟแนนซ์หนี้เดิม ลดต้นทุนภาระดอกเบี้ย เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 10-15% ทุ่มงบลงทุน 8-9 พันล้านบาทขยายธุรกิจ

               นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กล่าวว่า บริษัทมีแผนจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ที่จัดจำหน่ายในครั้งนี้เป็นการออกหุ้นกู้ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่ได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 90,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ไปแล้ว 50,000 ล้านบาทในเดือนต.ค. 56 ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สำหรับหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้จะอยู่ภายในวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท
              "บริษัทมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ที่ระบุชนิดผู้ถือ ประเภทมีประกัน ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นครั้งที่2 โดยจะเสนอขายวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท หลังจากครั้งแรกได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ไปแล้ว 50,000 ล้านบาท"
              ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้มี 4 ชุด คือ อายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน และประชาชนทั่วไป จะเสนอขายในวันที่ 24-26 มี.ค.นี้  ซึ่งบริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปทดแทนเงินกู้ยืม จึงไม่ได้เป็นการก่อหนี้เพิ่ม
              ส่วนอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ครั้งนี้ น่าจะกำหนดในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งอาจเทียบเคียงกับครั้งที่แล้วที่หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10%, 5 ปี ที่ 4.70%, 7 ปีที่ 5.10% และ 10 ปีที่ 5.35% โดยจะต้องมีการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยร่วมกัน ซึ่งจะต้องอิงอัตราดอกเบี้ยในตลาด และอัตราดอกเบี้ยกลาง  หลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 12 มี.ค.ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่  แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวการณ์ปัจจุบัน ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง
               สำหรับนักลงทุนสถาบันจะเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อชุด และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 10,000 บาท ในส่วนของประชาชนทั่วไปจะเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อชุด และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 100,000 บาท โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
               โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้
              นายเกรียงชัย กล่าวว่า บริษัทมีหนี้เงินกู้ประมาณ 180,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้นประมาณ 130,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ 50,000ล้านบาท เมื่อออกหุ้นกู้ครั้งนี้วงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ก็จะส่งผลให้มีสัดส่วนที่เป็นหุ้นกู้รวม 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้นก็จะปรับลงเหลือ 90,000 ล้านบาท
              นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนวงเงินกู้ระยะสั้นเป็นระยะยาว โดยใช้ 3 แนวทาง คือ 1.กู้เงินสกุลดอลลาร์จากสถาบันการเงินต่างประเทศ 2.กู้เงินสกุลบาทจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ และ 3.กู้เงินสกุลบาทจากธนาคารต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ทั้งหมดแล้วจะทำให้ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยลดลง เพราะโดยปกติการออกหุ้นกู้จะมีดอกเบี้ยต่ำกว่ากู้สถาบันเงิน โดยเงินกู้ 180,000ล้านบาทมีดอกเบี้ยประมาณ 5% ทั้งนี้หลังจากรีไฟแนนซ์น่าจะลดลง คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/57
              นายเกรียงชัย กล่าวต่อว่า ในปี2557 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15% จากปีก่อน เนื่องจากร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ขายสินค้าที่มีความจำเป็นในการจับจ่าย เป็นร้านอิ่มสะดวก มีอาหารพร้อมรับประทาน มีของใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบกับด้วยกลยุทธ์ของสินค้า จากการจัดโปรโมชั่นหรือแคมเปญ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ยังคงมีการจับจ่ายใช้สอย
              ด้านงบลงทุนปีนี้ตั้งไว้ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายสาขาใหม่ โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่ม 600 สาขา ปรับปรุงสาขาเดิม ลงทุนในศูนย์กระจายสินค้า และในบริษัทลูกอย่างธุรกิจเบเกอรี่ รวมถึงตั้งบริษัทใหม่ในส่วนของช็อปปิ้งออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น