AITยอมไดลูชั่น62%
ขายเพิ่มทุนหุ้นละ5บ.
1 หุ้นเดิมได้ 2 หุ้นใหม่ - ตัวเลข D/E ต่ำกว่า 1 เท่า
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 13 คน
AIT ตัดใจยอมไดลูชั่น 62% ประกาศเพิ่มทุน 137.5 ล้านหุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาถูกแค่หุ้นละ 5บาท ทั้งที่ราคากระดานล่าสุด 84 บาท ส่งผลให้มีหุ้นเพิ่มขึ้น 3 เท่า “ศิริพงศ์” ลั่นเพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้นและตัวเลข D/E ลดลงเหลือต่ำกว่า 1 เท่า การันตีรายได้ปีนี้เกินเป้า 5,400 ล้านบาท กำไรทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เล็งตั้งบริษัทร่วมทุน 2 แห่ง รับงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายศิริพงศ์ อุ่นทรพันธ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 687,736,360 บาท จาก 343,868,180 บาท เป็น 1,031,604,540 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 137,547,272 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 5 บาท หรือประมาณ 700 ล้านบาท โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 5 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XR เป็นวันที่ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวธุรกิจบริษัท 1-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้รองรับโอกาสการลงทุนธุรกิจบริการในประเทศไทยและโอกาสทางธุรกิจกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งเพิ่มเม็ดเงินลงทุนให้บริษัท เคิร์ซ จำกัด เป็นบริษัทลูกที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการไปเมื่อกลางปี 2556 ที่ผ่านมา
หลังจากเพิ่มทุนแล้วราคาหุ้นจะถูกไดลูทประมาณ 62% จากราคาปัจจุบัน 84 บาท และส่งผลให้มีจำนวนหุ้นใหม่เพิ่ม ขึ้น 3 เท่า เป็น 209 ล้านหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 69 ล้านหุ้น ส่งผลให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น ขณะที่หนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือต่ำกว่า 1 เท่าจากเดิม 2 เท่า
นายศิริพงศ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 57 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้คาดรายได้จะเกินเป้าตั้งไว้ 5,400 ล้าน บาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 3,067.70 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังสามารถรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2,600 ล้านบาท จากปัจจุบัน 5,600 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ปีหน้า ขณะที่มีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกมูลค่า 756 ล้านบาท และงานที่อยู่ระหว่างยื่นประมูล มูลค่า 477 ล้านบาท ขณะที่มั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา เนื่องจากบริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมตั้งบริษัทย่อยร่วมกับพันธมิตรในประเทศ ขยายการลงทุนกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อขยายโครงการ ขนาดใหญ่และรับงานในพม่า ลาว กัมพูชา โดยเฉพาะงานด้านโทรคมนาคม โดยจะมีข้อสรุปภายในเดือนพ.ย.นี้ คาดใช้เงินลงทุนหลัก 1,000 ล้านบาท และโครงการส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลตอบแทนได้ประมาณ 1-2 ปีหลังจากเริ่มลงทุน
สำหรับปี 2557 บริษัทมีแผนการลงทุนระบบ Training Center โดยเช่าพื้นที่ในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และสร้าง ระบบ Telepresent ที่เป็นระบบการประชุมทางไกล เพื่อรุกตลาดกลุ่มนี้เพิ่มคาดใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น