‘สรจักร’ผ่านเฉียดฉิว
เคบินแฟคเตอร์พุ่ง72%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2556ผู้เข้าชม : 6 คน
“สรจักร” ผ่านประเมินรอบ 6 เดือนแรกเฉียดฉิว แต่บอร์ดยังให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ระบุจากนี้ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกู้ผลประกอบการ ก่อนประเมินรอบ 6 เดือนถัดไป ส่วนผลการดำเนินงานด้านขนส่งเดือนก.ย. 56 เคบินแฟคเตอร์พุ่ง 72.3%
แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับทราบผลประเมินการทำงานรอบ 6 เดือนของนายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ซึ่งผ่านการประเมินแต่ไม่สามารถเปิดเผยคะแนนได้ เพราะการให้คะแนนยังไม่ครอบคลุมทุกด้าน เนื่องจากนายสรจักร เพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ 7-8 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมบอร์ดได้มีการแสดงความเห็นเรื่องการทำงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ว่า จากนี้ไป นายสรจักรจะต้องทำงานให้หนักขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลกระทบให้รายได้และการทำกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และบอร์ดยังเห็นว่าปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหากผลการดำเนินงานจากนี้ยังไม่ดีขึ้นก็อาจส่งผลกระทบต่อการประเมินการทำงานของนายสรจักรในรอบ 6 เดือนถัดไป
“การประเมินนี้คะแนนยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ครอบคลุมทุกด้านเพราะคุณสรจักรเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 7-8 เดือน แต่ถ้าบอกว่าคุณสรจักรไม่ผ่านประเมิน ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปหรือเปล่า บอร์ดจึงให้โอกาส DD ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพราะเหตุที่บอร์ดเลือกคุณสรจักรเข้าทำงานก็เป็นเพราะเห็นผลงานที่ผ่านมา โดยบอร์ดได้คอมเมนต์ว่าจากนี้ DD ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกเยอะมาก และจะทำให้รายได้ EBITDA ไม่เข้าเป้า ดังนั้น DD ต้องไปหาวิธีที่จะทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้า ไม่เช่นนั้นอาจส่งกระทบถึงการประเมินการทำงานในรอบ 6 เดือนถัดไป” แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้บอร์ด THAI ยังได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) เฉลี่ย 72.3% เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 71.7% เนื่องจาก THAI มีการรับมอบเครื่องบินใหม่และปรับเส้นทางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร
โดยเส้นทางบินภายในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 71.1% เป็น 80.4% เส้นทางยุโรปเพิ่มจาก 67.3% เป็น 68.3% เส้นทางภูมิภาคสายใต้จาก 76.7% เป็น 78.4% และสายเหนือจาก 74.4% เป็น 76.6% ส่วนหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ มี Cabin Factor เฉลี่ย 74.0% สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 72.5% เนื่องจากมีการขยายเส้นทางบินเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 7.0% ขณะที่ปริมาณการผลิตลดลง 2.2% ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) โดยรวมทั้งใต้ท้องเครื่องบิน (Belly) และเครื่องบินขนส่งสินค้า (Freighter) เฉลี่ยอยู่ที่ 52.4%s ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 55.3%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น