การเติบโตของจีนหนุนหุ้นเอเชีย
ต่างประเทศ วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 6 คน
วอลล์สตรีท เจอร์นัล - ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมายกเว้นตลาดญี่ปุ่น โดยตลาดออสเตรเลียพุ่งสูงสุดในรอบห้าปีอีกครั้งเมื่อข้อมูลการเติบโตของจีนในช่วงไตรมาสสามชี้ว่าเศรษฐกิจใหญ่สุดของเอเชียมีเสถียรภาพ ส่วนราคาทองคำหยุดพักเหนื่อย หลังจากที่ดีดตัวเกือบ 3% เมื่อวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.)
สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในช่วงไตรมาสสามอยู่ที่ 7.8% เทียบกับ 7.5% ในช่วงไตรมาสสอง และสอดคล้องกับประมาณการเฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ 18 คนที่สำรวจโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล
ก่อนหน้านี้ในช่วงฤดูร้อน สัญญาณการชะลอตัวและสภาพคล่องที่ฝืดเคืองในเดือนมิถุนายน ทำให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเศรษฐกิจจีน แต่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนดีขึ้นซึ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะกำลังฟื้นตัว
ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.7% ปิดที่ 5321.50 จุด สูงสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้าสำคัญของออสเตรเลีย ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ปิดบวก 1.06% ที่ระดับ 23340.10 จุด และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตในแผ่นดินใหญ่ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ระดับ 2193.78 จุด
ส่วนในตลาดอื่นๆ ดัชนีคอสปิ ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 2052.40 จุด สูงสุดในรอบสองปี และดัชนีสเตรทไทม์ สิงคโปร์ ปิดเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะเดียวกัน ตลาดเกิดใหม่ก็มีผลงานโดดเด่นเช่นกัน โดยตลาดอินเดียปรับตัวขึ้น 2.29% และตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 1%
เนื่องจากตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนก็เป็นไปตามที่คาดทั้งสองตัว จึงทำให้ตลาดมีปฏิกิริยาไม่รุนแรงมากนัก โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าตลาดได้รับข่าวเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนแล้ว และตลาดฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ เป็นตลาดที่มีผลงานดีที่สุดในเอเชียในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงมีผลงานดีมาก โดยดัชนีฮั่งเส็ง ไชน่า เอ็นเตอร์ไพรส์ ดีดตัวขึ้นกว่า 12% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ตลาดญี่ปุ่นสวนกระแสตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 14561.54 จุด เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าในชั่วข้ามคืน
ดอลลาร์มีการซื้อขายที่ 97.89 เยน จาก 97.91 เยนเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ตลาดนิวยอร์ก ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เมื่อวันพฤหัสบดี เพราะนักลงทุนลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดโครงการซื้อพันธบัตร เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐที่นานถึง 16 วัน อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้
มีข่าวการแถลงผลกำไรบริษัทในฮ่องกงออกมามากเช่นกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นเอไอเอ กรุ๊ป ดีดตัว 4.4% หลังจากที่บริษัทประกาศว่า มูลค่าของธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสสาม เนื่องจากตลาดฮ่องกง และจีนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันบริษัทแซนส์ ไชน่าพุ่งขึ้น 9.2% หลังจากที่บริษัทรายงานว่า รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 43% เป็น 2,340 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสาม
อย่างไรก็ตาม หุ้นเลอโนโว กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.7% หลังจากมีข่าวออกมาว่า บริษัทกำลังพิจารณาทำคำเสนอซื้อแบล็คเบอร์รี่ บริษัทสมาร์ทโฟนแคนาดา ซึ่งกำลังประสบปัญหาอยู่
สตีฟ โกลด์แมน กรรมการผู้จัดการบริษัท แคพสตรีท แคปิตอล กล่าวว่า ดูเหมือนหลายๆ ตลาดจะเลื่อนการคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ที่การชะลอตัวของจีนจะมาถึง จีนจะยังคงได้ประโยชน์จากภาคการผลิตและภาคส่งออก และดูเหมือนว่าจะเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างดีสำหรับจีนในอนาคต
ในตลาดโภคภัณฑ์ การเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นของจีนช่วยให้ทองแดงปรับตัวขึ้น 0.6% เป็น 7,273 ดอลลาร์ต่อตัน และตราสารน้ำมันดิบเบรนต์ สูงกว่า 109 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่การสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสหรัฐทำให้ราคาน้ำมันลดลงในชั่วข้ามคืน
ในขณะเดียวกัน ทองคำก็พักหายใจหลังจากที่ดีดตัวเกือบ 3% ในชั่วข้ามคืน ซึ่งถือเป็นการดีดตัวที่มากสุดในวันเดียวในรอบหนึ่งเดือน เนื่องจากดอลลาร์อ่อนตัวลง เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไม่ห่างจากระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันพฤหัสบดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น