TWSแรงเกิน
ระวังหุ้นโฟลตต่ำ
ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 01 พฤศจิกายน 2556 ผู้เข้าชม : 3 คน
TWS หุ้นฟื้นฟูกิจการกลับมาเทรดใหม่ แรงสุด พุ่งขึ้น 1,760% ทำจุดสูงสุดที่ 32 บาท จาก 1.72 บาท ก่อนปิดที่ 18 บาท เตือนรายย่อยระวังหุ้นสภาพคล่องต่ำ หากซื้อมากระวังจะออกลำบาก
วานนี้ (31 ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ TWS ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP ให้กลับเข้าซื้อขายอีกครั้ง หลังจากบริษัทดำเนินการเพื่อขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนครบถ้วนแล้ว โดยกำหนดให้หลักทรัพย์ของ TWSสามารถซื้อขายได้โดยไม่มีกรอบราคา (Ceiling & Floor)
ราคาหุ้น TWS เปิดทำการซื้อขายครั้งแรกที่ราคา 32 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,760% หรือคิดเป็น 14 บาท หลังจากหยุดการซื้อขายมานานเกิน 10 ปี โดยในช่วงเช้าของวานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาต่อมา ถึงแม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงเปิดตลาดตอนบ่ายก็ตามที จนดัชนีตลาดหุ้นปิดบวกไปมากกว่า 11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,442 จุด สำหรับราคาหุ้น TWS ปิดที่ระดับ 18 บาท เพิ่มขึ้น 16.28 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 946.51%
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า การกลับเข้ามาซื้อขายของหุ้น TWS หลังจากที่หยุดทำการซื้อขายไปนาน ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นหุ้นที่เพิ่งกลับมาใหม่ ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นตอนนี้ยังไม่มีหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจ จึงแห่เข้าไปเก็งกำไรหุ้นตัวนี้
“อยากเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวัง เพราะหุ้นTWS มีสภาพคล่องน้อยมาก ดูได้จากช่วงเปิดตลาดเช้า ปริมาณ bid-offer มีอยู่มากในหลักแสนหุ้น แต่พอหลังช่วงบ่ายเหลือเพียงแค่หลักหมื่นหุ้น หลักพันหุ้นเท่านั้น และหลังจากนี้ไปเชื่อว่าวอลุ่มก็จะน้อยกว่านี้อีก หากอดใจไม่ได้ให้ซื้อน้อยๆ เพราะต้องเผื่อจังหวะตอนออกด้วย หากออกไม่ได้ ก็จะเหนื่อย” นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้อยากให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลการลงทุนของหุ้นแต่ละตัวให้ละเอียดก่อนที่จะเข้าทำการซื้อหุ้น เพราะอาจจะทำให้เกิดผลขาดทุนได้ หากบริษัทนั้นมีความเสี่ยงในเรื่องของธุรกิจ ฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับการอ่านข้อมูลที่แจ้งโดยตลาดหลักทรัพย์ฯให้ครบถ้วนก่อนการลงทุน
สำหรับความกังวลว่าหุ้นตัวนี้จะติดแคชบาลานซ์นั้น คงไม่ต้องห่วง เพราะระดับค่า P/E ยังไม่สูงมาก เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการปรับโครงสร้าง และมีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ทำให้สามารถที่จะเข้ามาเก็งกำไรได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแคชบาลานซ์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งปลดเครื่องหมาย NC บริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ TWS ในวันที่ 31 ตุลาคม 2556 เนื่องจากปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แล้ว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2544 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดให้บริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ TWS เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์ เนื่องจากงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2543 มีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบจำนวน 2,196 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์ ประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอนเพิ่มเติมเนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินประจำปีของ TWS เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 ตลาดหลักทรัพย์ได้ย้ายหลักทรัพย์ของ TWS ไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ Non-Performing Group (NPG)
ต่อมา TWS ได้ยื่นคำขอให้พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท โดยบริษัทได้ปรับปรุงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานแล้ว และแสดงให้เห็นว่า การประกอบธุรกิจหลักของบริษัทคือ การผลิต ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทและบริษัทย่อย
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทอื่นๆ ซึ่งประกอบธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัท รวมทั้งได้ลงทุนในกิจการอสังหาริมทรัพย์โดยถือครองที่ดินที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการถือครองโดยบริษัทหรือบริษัทย่อย
TWS มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเป็นเวลา 1 ปีก่อนยื่นคำขอ ซึ่งพิจารณาจากงบการเงินประจำปี 2555 เท่ากับ 263 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 2,041 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ ซึ่งพิจารณาจากงบการเงินประจำไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 งวด 6 เดือนแรกของปี 2556 เท่ากับ 68 ล้านบาท
มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 เท่ากับ 2,052 ล้านบาท รวมทั้งสามารถแสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง
ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) ของ TWS ได้แก่ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ของทุนชำระแล้ว และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 30 ราย ซึ่งถือหุ้นรวมกัน 43,194,821 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้ว ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหลักทรัพย์ดังกล่าวของตนออกขายภายใน 1 ปี (Silent Period) นับแต่วันที่หลักทรัพย์ของ TWS กลับมาซื้อขาย โดยได้รับการผ่อนผันให้เมื่อครบกำหนด 6 เดือน สามารถทยอยขายหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ในจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขาย
ตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า TWS มีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการเพื่อขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนครบถ้วนแล้ว ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์จึงเห็นควรให้หลักทรัพย์ของ TWS พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย "SP" (Suspension) และ "NC" (Non-compliance) รวมทั้งย้ายหลักทรัพย์ของ TWS ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non- Performing Group : NPG) และให้เริ่มซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรม "เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร" หมวด "ธุรกิจการเกษตร" ได้ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป
อนึ่ง เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(1) และ (3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขายการชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2555 กำหนดให้หลักทรัพย์ของ TWS สามารถซื้อขายได้โดยไม่มีกรอบราคา (Ceiling & Floor) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น