วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บัวหลวงไม่กังวลหนี้เสีย การเงินการคลัง วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556

บัวหลวงไม่กังวลหนี้เสีย

การเงินการคลัง วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 3 คน 

แบงก์กรุงเทพ (BBL) ยอมรับหนี้เสียเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีนัยสำคัญเชิงลบ ยันคุมตัวเลขถึงสิ้นปีไม่เกิน 2.5% ส่วนการตั้งสำรองยังคงมีเพียงพอ

                นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 พันล้านบาท เป็น 4.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ 4.1 หมื่นล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ         ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และเอสเอ็มอีบางส่วน
“การเพิ่มขึ้นถือว่าสอดคล้องกับอุตสาหกรรมที่พบว่า NPL เพิ่มขึ้นทั้งระบบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่ากังวล”
ทั้งนี้ ประเมินว่าจากการที่ภาพรวมของสินเชื่อมีการขยายตัวสูงในระดับที่ใกล้เคียงกับการขยายตัวของ NPL จะทำให้สัดส่วน NPL ในสิ้นปีนี้ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิมที่ 2.5% แม้ว่ามูลค่าเม็ดเงินของ NPL จะเพิ่มขึ้นดังกล่าว
                สำหรับการตั้งสำรองธนาคารจะยังคงใช้การตั้งสำรองในระดับปกติ และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการตั้งสำรองพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ไว้แล้ว
                "แนวโน้ม NPL มีโอกาสเพิ่มขึ้นแต่ยังถือว่าเป็นไปตามธรรมชาติ ยังไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่วนของ BBL ยอมรับว่า NPL เพิ่มขึ้น 4 พันล้านบาท แต่ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อสินเชื่อถือว่ายังไม่เยอะ โดยสิ้นปีนี้จะยังคุมไว้ได้ใกล้เดิมที่ 2.5% และตอนนี้ไม่ได้มีมาตรการที่ต้องดูแลเป็นพิเศษว่ากันเป็นรายๆ ไป ส่วนตั้งสำรองคงเป็นการตั้งสำรองปกติ เพราะที่ผ่านมาเราสำรองไว้เยอะมาก" นายสุวรรณ กล่าว
                ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ส่งผลกระทบต่อ 2-3 จังหวัดที่น่าเป็นห่วง เช่น ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยประสบปัญหานี้ โดยธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกับปี 2554 แม้ว่าไม่ได้มีการออกมาตรการพิเศษ แต่พร้อมที่จะพิจารณาแนวทางให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเป็นรายกรณี
                เช่น การยกเว้นการชำระดอกเบี้ย การยกเว้นการชำระเงินต้น หรือการให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดมีลูกค้ามาขอความช่วยเหลือบ้างเล็กน้อยทั้งลูกค้าเอสเอ็มอี และบุคคล
บล.เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังแนะนำ "ซื้อ" หุ้นธนาคารกรุงเทพด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 2557 ที่ 245 บาท/หุ้น โดย BBL ยังเป็นหนึ่งในหุ้นเด่น ซึ่งสนับสนุนจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่งสุดในกลุ่ม โดยจะทำให้ BBL สามารถบริหารจัดการได้ดีกว่ากลุ่มต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอน ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันยังถูกในเชิงประเมินมูลค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น