JASเร่งตั้งกองทุนฯ
บุ๊คกำไร4.8หมื่นล้าน
มีปันผลพิเศษ-ซื้อหุ้นคืนอีก 5 พันล้านบ.
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 03 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 19 คน
JAS ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน 7 หมื่นล้านบาท เสร็จปีนี้ รับรู้กำไรพิเศษหลังภาษี 4.8 หมื่นล้านบาท ชูผลตอบแทน 6% ต่อปี คาดนักลงทุนต่างชาติสนใจจองซื้อหมด พร้อมนำเงินมาขยาย FTTX เพิ่มศักยภาพแข่งขันทางธุรกิจ และมีเงินจ่ายปันผลพิเศษ แถมมีเงินเหลือซื้อหุ้นคืนได้อีก 5 พันล้านบาท เพิ่ม EPS อีก 0.06 บาทต่อหุ้น ลดค่า P/E ลงอีก 1.2 เท่า เป้าหมาย 11.80 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงที่ 1ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เข้าประชุมกับนาย พิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือJAS ได้มีการสรุปประเด็นสำคัญ โดยผู้บริหารคาดว่า JASจะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 7 หมื่นล้านบาทได้เสร็จภายในปีนี้
ทั้งนี้คาดว่าจะให้ผลตอบแทนปีแรกที่ 6 % หรือ 4.2 พันล้านบาท จากอัตราค่าเช่ารายปีขั้นต่ำ และจะมีส่วนเพิ่มขึ้นให้อีกในอนาคต ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของJASในอนาคต จากการอนุมัติของที่ประชุมJAS จะเข้าไปถือสัดส่วน 1 ใน 3 ในกองทุนดังกล่าว
“จากการสำรวจความต้องการเบื้องต้น JAS คาดว่าจะมีการจองซื้อกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนต่างประเทศ” นักวิเคราะห์ กล่าว
การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานนี้จะทำให้เกิดกำไรพิเศษขึ้นประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาทหลังถูกหักภาษี โดยJAS คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษนี้บางส่วนหลังกระบวนการ จากการที่มาตรฐานทางบัญชีอนุญาตให้ JAS บันทึกกำไรพิเศษได้แค่ส่วนต่างระหว่างมูลค่าพื้นฐานกับมูลค่าทางบัญชีเท่านั้น โดยส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เป็นระยะเวลา 7 ปี หรือ 20 ปี
เนื่องจากมูลค่าพื้นฐานของสินทรัพย์ยังไม่ได้รับการประเมิน ซึ่งJASจึงยังไม่สามารถให้ตัวเลขกำไรที่แน่นอนในปีแรกได้ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ในการขยายโครงข่าย FTTX และอาจมีการจ่ายปันผลพิเศษ หรือการซื้อหุ้นคืน
อย่างไรก็ตามเมื่อกระบวนการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเสร็จ จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายใหม่ที่ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งจะต้องบันทึกทุกปี ค่าใช้จ่ายนี้จะเกิดจากค่าเช่าที่จ่ายให้แก่กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะถูกชดเชยด้วยการลดลงของค่าเสื่อม 1.7 พันล้านบาทต่อปี
รวมถึงส่วนแบ่งรายได้จากการถือหุ้นหนึ่งในสามของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ 1.4 พันล้านบาท ต่อปี อิงจากการประมาณการคร่าวๆ ของฝ่ายวิจัยฯ โดยJASจะต้องมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 แสนราย เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มนี้ ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นใหม่ในช่วงสองปีที่ผ่ามาอยู่ที่ 2.1 แสนรายต่อปี
ด้าน บล.ธนชาต ระบุว่า แผนการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานนี้ไม่ใช่แผนออกจากธุรกิจของผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้สามารถจ่ายปันผลพิเศษ มีเงินสดสำหรับลงทุนใหม่ ขณะที่กำไรน่าจะอยู่ในระดับทรงตัวเป็นอย่างน้อย คงคำแนะนำ “ซื้อ” JAS และปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 2557 ที่ราคา 11.80 บาทต่อหุ้น
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการตั้งกองทุนฯ คือ เงินปันผลพิเศษอาจอยู่ที่ 0.70บาท/หุ้น หรือ 9.4% yield นอกเหนือไปจากประมาณการปัจจุบันของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 4.8% นอกจากนี้ JAS สามารถซื้อหุ้นคืนได้ในวงเงิน 5พันล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2557 เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือระดับค่า P/Eลดลง 1.2 เท่า
อย่างไรก็ตาม สมาชิกบรอดแบนด์ใหม่ของ JAS ยังคงแข็งแกร่งที่ราว 20,000 ราย/เดือน ในเดือนก.ค. และมีสมาชิก Wi-Fi แตะระดับ 480,000 รายในเดือนก.ค. จาก 350,000 ณ สิ้นปี 2012 ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มใช้บริการข้อมูล และapplications มากขึ้น ความต้องการใช้บรอดแบรนด์อินเตอร์เน็ตจึงยังคงเพิ่มขึ้น ยังคงมองว่าผู้เล่นใหม่ อย่าง CTH ไม่ใช่คู่แข่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลนี้ก่อนปี 2558 เรามองว่า JAS จะสามารถเร่งผลักดันตัวเองให้เหนือกว่าคู่แข่งได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น