CCPแจกข่าวดี!
กำไรกระฉูด98%
รายได้3พันล้าน
ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 4 คน
CCP ไตรมาส 4/56 กำไรพิเศษ 300 ล้านบาท ดันกำไรทั้งปีเติบโต 98% การันตีรายได้ปีนี้ 3,000 ล้านบาท ทุ่มงบลงทุน 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักร-สร้างโรงงานใหม่ คาดสรุปคดีความ “สมาร์ทคอนกรีต” เดือนพ.ย.นี้
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่าไตรมาส 4/56 บริษัทมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินที่พัทยา จ.ชลบุรี ประมาณ 300 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิปี 56 จะเติบโตก้าวกระโดด จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 215.42 ล้านบาท หรือเติบโต 98% โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 80.95 ล้านบาท
ทั้งนี้มั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายตั้งไว้ คือ เติบโต 15-20% ที่ 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 2,604.99 ล้านบาท โดยครึ่งแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1,324.26 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยายตัวของภาคก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 50% และเอกชน 50% โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 400 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้จนถึงไตรมาส 2/57
“ปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้า 3,000 ล้านบาท แม้ว่าน้ำท่วมจะทำให้ยอดขายลดลงเล็กน้อย โดยเดือนต.ค.คาดว่าจะลดลง 3-4% และเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ บวกกับน้ำลดจะดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดซ่อมแซมจะมีการเติบโตอย่างมากหลังน้ำท่วม” นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 2557 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 10% โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้ตลาดคอนกรีตปี 2557 มีการขยายตัวที่ดี
ทั้งนี้ปี 57 บริษัทได้เตรียมงบลงทุน 100-200 ล้านบาท ในการซื้อเครื่องจักรและสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 10% รองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตคอนกรีตในเครืออยู่ 4 แห่งที่ จ.ชลบุรี โดยใช้กำลังการผลิตเกือบเต็ม 100% แล้ว และมีแพล็นท์ปูนจำนวน 18 แพล็นท์
“ปีหน้าคาดว่าธุรกิจคอนกรีตจะโตได้ดี จากการก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งภาคอสังหาฯจากภาครัฐ-เอกชนที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน และหากโครงการ 2 ล้านล้านบาท หรือโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทเกิดขึ้นได้ จะยิ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีการเติบโต ซึ่งเรามีความพร้อมในการเข้ารับงานคอนกรีตทุกรูปแบบ และเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของโครงการต่างๆ ด้วยเช่นกัน” นายอาทิตย์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าคดีความบริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMC เป็นบริษัทในเครือของ CCP ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอคำตัดสินของศาลฎีกาเกี่ยวกับสิทธิในการถือหุ้น SMC ของนายเสรี จุลศักดิ์ศรีสกุล คาดว่าจะทราบคำตัดสินช่วงกลางเดือนพ.ย.นี้ ส่งผลให้แผนขาย IPO ของสมาร์ทคอนกรีตต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1/57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น