วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สหรัฐทำข้อตกลงหนี้ได้แล้ว ตลาดเกิดใหม่จะพุ่งหรือไม่? ต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556

สหรัฐทำข้อตกลงหนี้ได้แล้ว ตลาดเกิดใหม่จะพุ่งหรือไม่?

ต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 7 คน 

หลังจากที่สามารถขจัดผลกระทบที่สำคัญต่อตลาดหลังมีการทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐได้แล้ว  นักลงทุนเริ่มสงสัยว่า ตลาดเกิดใหม่จะปรับตัวขึ้นหรือไม่?
           ทิม คอนดอน  หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียของบริษัทไอเอ็นจี คาดว่าข่าวที่ออกมาจะทำให้มีการกำหนดราคาใหม่ต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน และในขณะนี้คิดว่าหุ้นในตลาดเกิดใหม่จะมีผลงานดีกว่าหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้วในไตรมาสปัจจุบัน  การปรับตัวลง 12% ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายในตลาดในวันที่ 21 พฤษภาคม-30 สิงหาคม  ยังคงทำให้มันดีดตัวกลับได้อีกเมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้วซึ่งปรับตัวลงแค่ 3% โดยตลาดหุ้นที่คอนดอนเลือกได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้
           ส่วนโจนาธาน ชัว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิกของซิตี้ กล่าวว่า  หุ้นในตลาดเกิดใหม่และตราสารหนี้รัฐบาลในเอเชียที่มีผลตอบแทนสูงอย่างเช่นพันธบัตรออมทรัพย์ของศรีลังกา อาจดีดตัวขึ้นหลังจากที่สหรัฐทำข้อตกลงหนี้
           ผู้นำในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านกฎหมายที่จะยุติทางตันงบประมาณเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่อำนาจในการกู้ยืมของรัฐบาลจะหมดอายุลง  ข้อตกลงที่ได้จะให้เงินแก่รัฐบาลสหรัฐจนถึงวันที่ 15 มกราคม และเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดี นั่นหมายถึงว่ายังคงมีความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานอีกครั้งในต้นปีหน้า
            ตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดีดตัวมากเมื่อวานนี้ โดยดัชนีจาการ์ตา คอมโพสิต ดีดตัวขึ้น 0.8% ในช่วงเช้าแม้ว่าสามารถปิดเพิ่มขึ้นได้แค่ 0.46%   ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ในช่วงเช้า แต่สามารถปิดตลาดเพิ่มขึ้นถึง 1.19%
            สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงความยินดีต่อข้อตกลงที่ได้  เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ข้อตกลงของสหรัฐจะทำให้เศรษฐกิจโลกสงบและจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจมหภาคของอินโดนีเซีย
            ทิม ริดเดลล์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดทั่วโลกและเอเชียของเอเอ็นแซด กล่าวว่า ในขณะที่สถานการณ์ในขณะนี้เป็น “ตัวหนุน” ให้เกิดความอยากเสี่ยง แต่นักลงทุนก็ไม่น่าจะมีศรัทธาอย่างแรงกล้าเพราะความไม่แน่นอนนี้  อย่างไรก็ดี คาดว่าทั้งตลาดเอเชียและสหรัฐจะยังคงปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี เว้นเสียแต่ว่าจะมีพัฒนาการทางการเมืองใหม่ๆ
           ริดเดลล์ กล่าวว่า ประเด็นหนึ่งที่สร้างความสบายใจคือตามข้อตกลงที่จะเปิดหน่วยงานอีกครั้ง สภาสูงและสภาล่างได้รับคำสั่งให้เจรจาและจัดทำแผนการใช้จ่ายและภาษีเป็นเวลา 10 ปีภายในวันที่ 13 ธันวาคม
            เคลลี เตห์ นักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทไอจี กล่าวว่า ภาพที่ใหญ่ขึ้นสำหรับนักลงทุนในขณะนี้คือ มาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐจะยังคงอยู่นานขึ้นอีกสักระยะ ซึ่งหมายความว่าจะมีสภาพคล่องมากขึ้นเข้ามายังตลาดเกิดใหม่
            ผู้จับตาตลาดคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอแผนการที่จะลดโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปเป็นปี 2557 หลังจากที่มีการปิดตัวของหน่วยงานรัฐบาลกลางไป 16 วัน และมีการคุมเชิงทางการเมืองเกี่ยวกับเพดานหนี้   แต่ก่อนที่จะเกิดปัญหาการเมืองในสหรัฐ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนธันวาคม 2556
           “มันจะมีความอยากเสี่ยง และจะมีความเร็วที่จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ   ตลาดเกิดใหม่จะได้ประโยชน์เป็นหลักแม้ว่ามีปัญหาโครงสร้าง” ชัว กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น