สหรัฐทำข้อตกลงหนี้ได้แล้ว ตลาดเกิดใหม่จะพุ่งหรือไม่?
ต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 7 คน
หลังจากที่สามารถขจัดผลกระทบที่สำคัญต่อตลาดหลังมีการทำข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐได้แล้ว นักลงทุนเริ่มสงสัยว่า ตลาดเกิดใหม่จะปรับตัวขึ้นหรือไม่?
ทิม คอนดอน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียของบริษัทไอเอ็นจี คาดว่าข่าวที่ออกมาจะทำให้มีการกำหนดราคาใหม่ต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน และในขณะนี้คิดว่าหุ้นในตลาดเกิดใหม่จะมีผลงานดีกว่าหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้วในไตรมาสปัจจุบัน การปรับตัวลง 12% ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายในตลาดในวันที่ 21 พฤษภาคม-30 สิงหาคม ยังคงทำให้มันดีดตัวกลับได้อีกเมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้วซึ่งปรับตัวลงแค่ 3% โดยตลาดหุ้นที่คอนดอนเลือกได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้
ส่วนโจนาธาน ชัว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิกของซิตี้ กล่าวว่า หุ้นในตลาดเกิดใหม่และตราสารหนี้รัฐบาลในเอเชียที่มีผลตอบแทนสูงอย่างเช่นพันธบัตรออมทรัพย์ของศรีลังกา อาจดีดตัวขึ้นหลังจากที่สหรัฐทำข้อตกลงหนี้
ผู้นำในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านกฎหมายที่จะยุติทางตันงบประมาณเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่อำนาจในการกู้ยืมของรัฐบาลจะหมดอายุลง ข้อตกลงที่ได้จะให้เงินแก่รัฐบาลสหรัฐจนถึงวันที่ 15 มกราคม และเพิ่มเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ดี นั่นหมายถึงว่ายังคงมีความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานอีกครั้งในต้นปีหน้า
ตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดีดตัวมากเมื่อวานนี้ โดยดัชนีจาการ์ตา คอมโพสิต ดีดตัวขึ้น 0.8% ในช่วงเช้าแม้ว่าสามารถปิดเพิ่มขึ้นได้แค่ 0.46% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ในช่วงเช้า แต่สามารถปิดตลาดเพิ่มขึ้นถึง 1.19%
สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงความยินดีต่อข้อตกลงที่ได้ เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ข้อตกลงของสหรัฐจะทำให้เศรษฐกิจโลกสงบและจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจมหภาคของอินโดนีเซีย
ทิม ริดเดลล์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดทั่วโลกและเอเชียของเอเอ็นแซด กล่าวว่า ในขณะที่สถานการณ์ในขณะนี้เป็น “ตัวหนุน” ให้เกิดความอยากเสี่ยง แต่นักลงทุนก็ไม่น่าจะมีศรัทธาอย่างแรงกล้าเพราะความไม่แน่นอนนี้ อย่างไรก็ดี คาดว่าทั้งตลาดเอเชียและสหรัฐจะยังคงปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี เว้นเสียแต่ว่าจะมีพัฒนาการทางการเมืองใหม่ๆ
ริดเดลล์ กล่าวว่า ประเด็นหนึ่งที่สร้างความสบายใจคือตามข้อตกลงที่จะเปิดหน่วยงานอีกครั้ง สภาสูงและสภาล่างได้รับคำสั่งให้เจรจาและจัดทำแผนการใช้จ่ายและภาษีเป็นเวลา 10 ปีภายในวันที่ 13 ธันวาคม
เคลลี เตห์ นักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทไอจี กล่าวว่า ภาพที่ใหญ่ขึ้นสำหรับนักลงทุนในขณะนี้คือ มาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐจะยังคงอยู่นานขึ้นอีกสักระยะ ซึ่งหมายความว่าจะมีสภาพคล่องมากขึ้นเข้ามายังตลาดเกิดใหม่
ผู้จับตาตลาดคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอแผนการที่จะลดโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปเป็นปี 2557 หลังจากที่มีการปิดตัวของหน่วยงานรัฐบาลกลางไป 16 วัน และมีการคุมเชิงทางการเมืองเกี่ยวกับเพดานหนี้ แต่ก่อนที่จะเกิดปัญหาการเมืองในสหรัฐ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนธันวาคม 2556
“มันจะมีความอยากเสี่ยง และจะมีความเร็วที่จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ตลาดเกิดใหม่จะได้ประโยชน์เป็นหลักแม้ว่ามีปัญหาโครงสร้าง” ชัว กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น