ฟิทช์ขู่อาจลดอันดับของสหรัฐ
ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 3 คน
รอยเตอร์ - ฟิทช์เตือน อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจากระดับ AAA ลง โดยอ้างว่าเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ดี ฟิทช์ยังคงเชื่อว่า นักการเมืองจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้กันได้
แถลงการณ์ของฟิทช์ เรทติ้งส์ระบุว่า แม้ยังคงเชื่อว่า จะมีการเพิ่มเพดานหนี้ในเร็วๆ นี้ แต่สถานการณ์ทางการเมืองและความยืดหยุ่นที่ลดน้อยลงในการกู้เงิน อาจเพิ่มความเสี่ยงที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ โดยฟิทช์จัดอันดับตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไว้ที่ Ratings Watch Negative เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้ในระยะใกล้นี้เพิ่มมากขึ้นหากไม่เพิ่มเพดานหนี้ทันเวลา และจะให้เวลาจนถึงปลายไตรมาสแรกของปี 2557 เพื่อตัดสินใจว่าจะลดอันดับจริงๆ หรือไม่
อย่างไรก็ดี ฟิทช์ยังคงเชื่อว่า นักการเมืองจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้กันได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสหรัฐใช้หนี้ต่างๆ ด้วยการกู้ยืมเกินกว่าเพดาน 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ในขณะนี้ได้
ฟิทช์เป็นบริษัทจัดอันดับรายเดียวจากจำนวนสามรายที่มองแนวโน้มความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐในด้านลบ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) ลดอันดับสหรัฐลงเหลือ AA+ และมองแนวโน้มว่ามีความมั่นคงในช่วงที่เกิดปัญหาเพดานหนี้ครั้งสุดท้ายในเดือนสิงหาคม 2554
เกนนาดีย์ โกลด์เบิร์ก นักกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยบริษัท ทีดี ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า มันเหมือนกับสิ่งที่เราได้เห็นจากเอสแอนด์พีก่อนที่จะมีการลดเกรดไม่นาน พวกเขากำลังเตือนพวกเราว่า จะไม่อดทนต่อการคุมเชิงเรื่องเพดานหนี้ และไม่เหมาะสมที่สหรัฐยังคงอยู่ในอันดับ AAA ฟิทช์กำลังอ้างถึงความเสี่ยงที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้ปลอมๆ เหล่านี้ว่าเป็นเหตุผลสำคัญ โดยพวกเขากำลังบอกให้จัดการปัญหานี้ให้เรียบร้อย
ฟิทช์ย้ำว่า การชะลอเวลาที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการกู้ยืมของสหรัฐได้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของสหรัฐที่จะทำตามสัญญาผูกมัดต่างๆ
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส จัดอันดับตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐไว้ที่ Aaa โดยมีแนวโน้มมั่นคง
กระทรวงการคลังสหรัฐได้กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะชนเพดานในการกู้ยืมประมาณวันที่ 17 ตุลาคม ดังนั้นความสามารถที่จะชำระหนี้ของรัฐบาลจึงมีความเสี่ยง
ฟิทช์กำลังดำเนินการบนสมมุติฐานว่า ถึงแม้ไม่มีการเพิ่มเพดานหนี้ก่อนหรือหลังวันที่ 17 ตุลาคมไม่นาน ก็มีขีดความสามารถและเจตนารมณ์ทางการเมืองอย่างเพียงพอที่จะมั่นใจได้ว่าสหรัฐจะชำระหนี้ตามสัญญา
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า การตัดสินใจของฟิทช์เป็นเครื่องเตือนแก่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐว่าสหรัฐใกล้ที่จะผิดนัดชำระหนี้ซึ่งเป็นอันตรายมาก
การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามาและผู้นำในสภาคองเกรสได้เริ่มขึ้นและหยุดอีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะเปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิทช์กล่าวว่า จะถือว่าสหรัฐผิดนัดชำระหนี้หากไม่สามารถจ่ายค่าดอกเบี้ยหรือเงินต้นของกระทรวงการคลังสหรัฐได้ตามกำหนด
คำเตือนของฟิทช์มีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไปแล้ว แต่การซื้อขายในตลาดสหรัฐเมื่อวันอังคารมีความผันผวน ดัชนีหุ้นสำคัญของสหรัฐปรับตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง และในช่วงท้ายๆ ของการซื้อขายในนิวยอร์ก ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเยนและการแข็งค่าในช่วงเช้าเมื่อเทียบกับเงินยูโรก็ลดลง
ไมเคิล วูลโฟล์ค นักกลยุทธ์เงินอาวุโสของบริษัท บีเอ็นวาน เมลลอน กล่าวว่า นี่ไม่ใช่แนวทางที่ดอลลาร์ประพฤติในช่วงที่เกิดวิกฤติเลห์แมน หรือในช่วงที่เอสแอนด์พี ลดเกรดตราสารหนี้สหรัฐในเดือนสิงหาคม 2554 ดังนั้นจึงคิดว่า ยิ่งมีความสงสัยในอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้นสำหรับดอลลาร์
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้ปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร ซึ่งอ่อนแออยู่แล้วก่อนที่ฟิทช์จะออกมาแถลง
เดวิด โคตอค ประธานกรรมการบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัท คัมเบอร์แลนด์ แอดไวเซอร์ กล่าวว่า สหรัฐมีขีดความสามารถที่จะชำระหนี้ การกระทำในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับความสามารถในการชำระเงิน แต่มันเป็นเรื่องของธรรมาภิบาลและความเต็มใจที่จะชำระเงิน ในกรณีนี้ สหรัฐใกล้จะล้มเหลวทางการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น