เล็กเซียวหงส์
คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 7 คน
เล็กเซียวหงส์ : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 11-อาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,451.91 จุด บวก 17.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,364 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1,057 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณดีต่อหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
………………………………………
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 11-อาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,451.91 จุด บวก 17.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,364 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1,057 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณดีต่อหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว****น่าจับตาแรงซื้อ “หุ้นกลุ่มธนาคาร” ขานรับผลประกอบการไตรมาส 3/56 ที่ว่ากันว่ากำไรรวมๆ อยู่ที่ 53,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อถามว่าหุ้นแบงก์ตัวไหนน่าเล่น...ถ้าดูกันแบบไม่แยกไซส์ KKP ดูน่าจะมีอัพไซด์มากสุด และถ้าคัดขนาด “บิ๊กแบงก์” ต้องยกให้ SCB และ KTB ที่ราคามีอัพไซด์เฉลี่ย 25-30% แต่ระหว่างนี้ต้องระมัดระวังแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ ด้วย และที่ไม่ควรลืมนั่นคือปรากฏการณ์ "sell on fact" อีกเช่นกัน****หุ้น TRC ของ “เฮียสมัย ลี้สกุล” ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ล่าสุดคว้า 2 บิ๊กโปรเจ็กต์จากเครือปตท. มูลค่ากว่า 7,600 ล้านบาท นั่นคืองานวางท่อก๊าซและสถานีต้นทาง-ปลายทาง ระยะเวลา 30 เดือน น่าอิจฉาผู้ถือหุ้น TRC จริงๆ มีงานรอบันทึกกำไรเพิ่มขึ้นเยอะทีเดียว****หุ้น AIT เป็นอีกตัวที่หลายคนอยากรู้ว่า..น่าลงทุนมั้ย เมื่อเทียบกับไดลูชั่นที่จะเกิดขึ้นมากกว่าถึง 62% งานนี้ต้องถามกลับเช่นกันว่า “จะลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว” เพราะหากบอกแบบระยะสั้นๆ แน่นอนว่ามีผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..แต่หากมองกันยาวๆ การเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าบริษัทในเชิงการลงทุนในอนาคต เพราะจากทุนจดทะเบียนเดิม 343 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 1,031 ล้านบาท นั่นหมายถึงศักยภาพการรับงานได้มากขึ้นในอนาคตนั่นเอง งานนี้จึงอยู่ที่ว่า “สไตล์ใคร..สไตล์มัน” แล้วละครับ****หุ้น CPALL ถือว่ามี “แรงกดดันเรื่องหนี้สิน” จนกลายเป็น “แผลกดทับ” ที่บริษัทต้องหาทางออกกันต่อไป แม้ว่าล่าสุดจะขายหุ้นกู้กว่า 40,000 ล้านบาท (จากวงเงิน 90,000 ล้านบาท) แต่เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ส่วนเรื่องการจัดตั้งกองทุนฯ ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายซะแล้ว เพราะสินทรัพย์ที่เป็นสะดวกซื้อ ที่มีอยู่กว่า 7,200 แห่ง จะนำมาเข้ากองทุนฯทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์ จึงไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าหรือไม่..และที่สำคัญกำไรที่ได้จาก MAKRO เพียงพอจะจ่ายหนี้ได้มากน้อยเพียงใดด้วย...จึงหนีไม่พ้นอาจต้องตัดขายหุ้น MAKRO ออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย****ปิดท้ายกันเช่นเคยกับข่าวหุ้นออนทีวีกับรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.05-14.00 น. หรือจะดูย้อนหลังผ่าน http://www.springnews tv.tv/program/insidestock และรายงานสถานการณ์หุ้น ช่วงเปิดตลาดเช้า Skype กันสดๆ จากกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ผ่านรายการ “บันทึกเศรษฐกิจ : Economic Journal” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-11.30 น. การันตีข้อมูลข่าวสารแน่นเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง.! เพราะทุกโจทย์เรื่องหุ้น หาตอบโจทย์ได้ที่ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” เท่านั้น..!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น