ซีอีโอมูดี้ส์ชี้สหรัฐไม่ผิดนัดชำระหนี้
ต่างประเทศ วันอังคารที่ 08 ตุลาคม 2556 ผู้เข้าชม : 5 คน
ซีเอ็นบีซี ซีอีโอมูดี้ส์ไม่เชื่อว่าสหรัฐจะมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้แม้ว่าจะไม่สามารถทำข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ดี ส่วนประธานสภาผู้แทนราษฎรยอมรับว่า สหรัฐกำลังจะผิดนัดชำระหนี้ และรัฐมนตรีคลังเตือนนักการเมืองสหรัฐกำลังเล่นกับไฟ ย้ำภายในวันที่ 17 ตุลาคม สหรัฐจะมีเงินคงคลังเหลือแค่ 30,000 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐยังคงปิดตัวเป็นวันที่ 6 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังคงมีความวิตกอย่างรุนแรงว่าการคุมเชิงทางการเมืองจะเป็นสาเหตุให้กระทรวงการคลังสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานในการกู้ยืม 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ได้ทันเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ หากรัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ก็อาจจะมีผลลบตามมาต่อตลาดการเงินทั่วโลก
เรย์มอนด์ แมคแดเนียล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูดี้ส์ กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้มากที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่ชำระหนี้หลักทรัพย์ และสหรัฐไม่น่าจะผ่านพ้นวันที่ 17 ตุลาคมโดยไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ เขาก็ยังคงคิดว่ากระทรวงการคลังสหรัฐยังต้องจ่ายค่าหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลัง
ด้วยเหตุนี้ตลาดการเงินจึงได้มีปฏิกิริยาค่อนข้างน้อยกับการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่เดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงเรื่องงบประมาณของรัฐบาลกลางในปีงบประมาณใหม่ได้ ตัวอย่างเช่น ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นประมาณ 0.5% นับตั้งแต่เริ่มมีการปิดหน่วยงานในวันศุกร์ที่ผ่านมา
แมคแดเนียลให้เหตุผลที่ตลาดมีปฏิกิริยาที่ค่อนข้างอิ่มเอมใจว่า เป็นเพราะการคุมเชิงทางการเมืองเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้เมื่อปี 2554 ได้รับการแก้ไขในท้ายที่สุด
“มันเหมือนกับเราได้เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน แต่มันน่าขัน เพราะเรามีประสบการณ์แบบนี้ในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ มันจึงทำให้ประชาชนรู้สึกสงบมากกว่าที่ควรจะเป็น”
“ข้อเท็จจริงที่ว่าตลาดกำลังมีปฏิกิริยาอย่างสงบมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายจะต้องเคลื่อนไหวเมื่อความตึงเครียดหรือความหดหู่ถึงจุดหนึ่ง ตลาดสามารถแสดงบทบาทในการบ่งชี้เช่นนั้นได้” แมคแดเนียล กล่าว
อย่างไรก็ดี แจ็ก ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีความวิตกมากกว่านั้น โดยได้ย้ำแถลงการณ์ก่อนหน้านี้แก่เอ็นบีซี ว่า ภายในวันที่ 17 ตุลาคม กระทรวงการคลังสหรัฐจะมีเงินคงคลังเหลือแค่ 30,000 ล้านดอลลาร์ และเตือนว่านักการเมืองสหรัฐกำลังเล่นกับไฟ
“เงิน 30,000 ล้านดอลลาร์เป็นระดับเงินที่ต่ำอย่างเป็นอันตรายมาก และเรากำลังจะเข้าไปอยู่ในที่ที่เราไม่เคยอยู่มาก่อน ซึ่งไม่มีเงินที่จะชำระหนี้ต่างๆ”
ลูว์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วรัฐบาลสหรัฐชนเพดานหนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งบีบให้เขาต้องใช้ “มาตรการพิเศษ” เพื่อสร้างช่องว่างเพิ่มเติม แต่ในขณะนี้ ขีดความสามารถที่จะใช้มาตรการเหล่านี้ได้หมดอายุลงแล้ว และเขาไม่มีมาตรการอื่นใดอีก
ในขณะเดียวกัน จอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เตือนว่า สหรัฐกำลังจะผิดนัดชำระหนี้เมื่อให้สัมภาษณ์แก่รายงาน “ดีส วีค” ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“เป้าหมายของผมในขณะนี้ คือ ต้องมีการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำให้หนี้เพิ่มและขาดดุล การปฏิเสธของประธานาธิบดีที่จะนั่งเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้ กำลังทำให้ประเทศของเรามีความเสี่ยงที่จะต้องผิดนัดชำระหนี้ นั่นคือเส้นทางที่เราเดินอยู่” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวแก่โทรทัศน์ เอบีซี
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ยอมเจรจาเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้เพราะวิตกว่าจะเป็นการยอมรับต่อเล่ห์เหลี่ยมของพรรครีพับลิกันที่ชอบขู่เรื่องผิดนัดชำระหนี้เมื่อไม่ได้ตามที่เรียกร้อง
ขณะนี้ มูดี้ส์คงอันดับตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไว้ที่ AAA ในขณะที่เอสแอนด์พีลดอันดับตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 และในขณะนี้คงอันดับ AA+ ไว้พร้อมกับให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ ส่วนฟิตช์ เรตติ้งส์จัดอันดับตราสารหนี้สหรัฐที่ AAA แต่แนวโน้มติดลบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น