วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

IRPC

"ไออาร์พีซี" ลั่นโครงการ UHV เสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 1/59 ดัน GIM เพิ่มขึ้น 1-2 เหรียญฯ/บาร์เรล พร้อมชูโครงการ EVEREST สร้างกำไรในปี 59 กว่า 10,000 ล้านบาท ส่วนการเจรจากับพันธมิตรจากโปแลนด์ คาดสรุปได้ไตรมาส 2/59

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า ในปี 2559 บริษัทตั้งเป้ามีกำไรไม่น้อยกว่าปี 2558 เนื่องจากโครงการเพิ่มมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ที่มีมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 34,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 1/59 ซึ่งจะทำให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) เพิ่มขึ้น 1-2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพราะจะได้แนฟทาและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นกว่า 10% ประกอบกับราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าคาดการณ์ จะทำให้ GIM ในปี 2559 สูงกว่าปี 2558 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 13 เหรียญต่อบาร์เรล แม้ว่าจะมีการปิดซ่อมโรงงานครั้งใหญ่ในช่วงไตรมาส 4/59 ประมาณ 30 วัน ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. 59 ก็ตาม
ทั้งนี้บริษัทมีโครงการ EVEREST โดยการร่วมทำงานกับบริษัทชั้นนำของโลก ที่จะมาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท ซึ่งจะสร้างกำไรในปี 2559 จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านเหรียญสหรัฐในปีถัดไป หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทมีโครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีนเพิ่มอีก 300,000 ตันต่อปี จากที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 475,000 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2560 ทั้งนี้ก็จะทำให้ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนที่จะลงทุนโครงการ ขนาดใหญ่เพิ่มในช่วง 2 ปี หรือจนถึงปี 2561 แต่สำหรับในปี 2559 จะใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาทในโครงการ UHV และโครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีนเพิ่มอีก 300,000 ตันต่อปี รวมถึงจะเน้นการทำกำไรเพื่อชำระคืนเงินกู้ก่อนจะมีการจ่ายปันผล
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเจรจากับบริษัทจากประเทศโปแลนด์ ให้ช่วยในด้านเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกที่มีกำลังการผลิต 25,000 ตันต่อปี ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีความสนใจที่จะเข้ามาถือหุ้นประมาณ 50% หรือคิดเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 2/59 นี้
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท นิปปอน ที่ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกอีก 1 เท่าตัวภายใน 5 ปี จากกำลังการผลิต 500,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนิปปอนมีความต้องการจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 49% ในอนาคต จากเดิมที่ถือหุ้น 35%
ด้านทิศทางราคาน้ำมันในปี 2559 คาดว่าราคาน้ำมันดิบของโลกจะทรงตัวอยู่ในระดับ 40-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ จะส่งผลดีต่อมาร์จิ้นของบริษัท เนื่องจากมีต้นทุนวัตถุดับที่ถูกลง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันของโลกที่เพิ่มขึ้น 1.3-1.4% หรือเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในทุกๆ ปี จากความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปัจจุบันเฉลี่ยที่ 93 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทในประเทศไทยน่าจะได้ประโยชน์จากการที่มีตลาดที่ใหญ่ขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีการส่งออกเม็ดพลาสติก 45% และขายในประเทศ 55% ซึ่งในการส่งออก 45% เป็นการส่งออกไปประเทศจีน 40% จากเดิมที่มีสัดส่วนถึง 60% เนื่องจากจะหันมาทำตลาดในอาเซียนเพิ่มขึ้น” นายสุกฤตย์ กล่าว

1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดี !
    คุณต้องการบริการเงินกู้ที่ถูกต้องและรวดเร็วหรือไม่?
    สมัครตอนนี้รับเงินด่วน!
    * ตำแหน่งระหว่าง 5,000 ถึง 50 ล้าน
    * เลือกระหว่าง 1 ถึง 30 ปีในการชำระคืน
    * เงื่อนไขเงินกู้ที่ยืดหยุ่น
    ติดต่อเราทางอีเมล: (thompson.loanservice@gmail.com)
    ทั้งหมดนี้และอื่น ๆ โปรดติดต่อเรา
    ชื่อเต็ม: ..........
    หมายเลขโทรศัพท์:.......
    รายได้ต่อเดือน: .............
    ประเทศ ...............................
    วัตถุประสงค์การกู้ ...........
    จำนวนที่ต้องการ .................
    สถานะเงินกู้ ............
    ระยะเวลา: ...........................
    ติดต่อเราทางอีเมล: (thompson.loanservice@gmail.com)
    การจัดการ.
    ติดต่อสินเชื่อ Speedy ด่วน !!!

    ตอบลบ