วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

Bigc ราคาพุ่งเพราะข่าวว่ากลุ่มCasino group จะขายหุ้นให้3เจ้าสัวไทย

3เจ้าสัวรุมซื้อBIGC เป้าราคาพุ่ง300บาท กลุ่ม "คาสิโน" ย่ำแย่ S&P เล็งลดเครดิตสู่ขยะ

2016-01-19 12:01:00
ผู้เข้าชม : 6

ราคา BIGC พุ่งเกือบ 5%  หลังมีข่าวกลุ่มคาสิโนเล็งขายหุ้น BIGC ให้กับ 3 กลุ่มเจ้าสัว “จิราธิวัฒน์-ซีพี-BJC” โบรกฯประเมินราคาขายอยู่ที่ 260-300 บาท/หุ้น ด้าน S&P เล็งพิจารณาลดอันดับเครดิต “คาสิโน” สู่ "ขยะ" เหตุกังวลภาระหนี้สูง
นางสาวรำภา คำหอมรื่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน และรองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ  BIGC กล่าวว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ขอให้บริษัทชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มคาสิโน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทได้ให้ข่าวว่ากำลังพิจารณาว่า จะขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทนั้น
ทั้งนี้ ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทได้รับทราบข่าวดังกล่าว และได้รับแจ้งจากกลุ่มคาสิโนว่ามีผู้แสดงความสนใจจะซื้อหุ้นของบริษัทจากกลุ่มคาสิโน และกลุ่มคาสิโนกำลังพิจารณาว่าจะขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทหรือไม่ อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่ได้รับข้อมูลในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด  
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 59 ราคาหุ้นปรับขึ้นถึง 14% เพราะมีข่าวว่าผู้ถือหุ้นใหญ่คือ Casino Group ซึ่งถือหุ้นอยู่ 58% ได้ประกาศว่ามีความสนใจที่จะขายหุ้น BIGC ในประเทศไทยออกมา เพื่อลดภาระหนี้สินของกลุ่ม แต่ก็พยายามที่จะปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ ประเมินว่า Casino จะขาย BIGC ในราคา 260-300 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่าทางกลุ่มจิราธิวัฒน์ กลุ่มซีพี และกลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC) ก็มีความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้น BIGC ต่อจาก Casino ด้วย
โดยทีมกลยุทธ์เห็นว่าควรระมัดระวังการเข้าซื้อเก็งกำไร เพราะยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดเกี่ยวกับผู้ซื้อ จำนวน และราคา รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น สิ่งที่ควรพิจารณาคือ 1.การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการขายหุ้น BIGC เกินกว่าหรือเท่ากับสัดส่วนที่ 25% หากไม่ถึงก็จะไม่มีการทำเทนเดอร์ฯ ก็จะเป็นความเสี่ยงของผู้เข้าไปเก็งกำไร และ 2.ราคาเทนเดอร์ฯ ที่จะเกิดขึ้น โดยที่ราคาข้างต้น 260-300 บาท ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามที่ราคาข้างต้นถือว่ามีส่วนเพิ่มได้อีก 15-33% จึงคาดว่านักลงทุนที่รักความเสี่ยง (Risk Lover) อาจจะมีการเข้าไปเก็งกำไรอีก จึงแนะนำ “ถือ” เพื่อรอดูสถานการณ์  และประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 210 บาท ขณะนี้อยู่ที่ 226 บาท สูงกว่า 8% แล้ว และระดับราคาปิดนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (P/BV) ปี 2559 ที่ 22.6 เท่า และ 3.5 เท่า ตามลำดับ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า ได้รับการยืนยันแล้วว่าทาง Casino วางแผนที่จะขายหุ้น BIGC ทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามที่ Casino ประกาศบนเว็บไซต์ โดยปัจจุบัน Casino มีสัดส่วนการถือหุ้น BIGC อยู่ราวๆ 50% สำหรับผู้ที่จะมารับซื้อ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็น TCC Group (ผ่าน BJC), Central Groups หรือร้านค้าปลีกของญี่ปุ่นอย่าง Aeont ที่มีอยู่แล้วในไทย ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้ง TCC และ Central groups ก็เป็นผู้ชนะการประมูลขาย Carrefour ในปี 2553 ดังนั้น เชื่อว่าทั้งสองรายอาจจะต้องการช่องทางในไฮเปอร์มาร์เก็ตของ BIGC ขณะที่ Aeont ก็กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลุ่มอาเซียน และอาจจะตัดสินใจเข้าซื้อ BIGC เพื่อเร่งขยายตัวในภูมิภาค
สำหรับราคาขายอาจจะซื้อได้ยาก โดยเชื่อว่าราคาหุ้นของ BIGC น่าจะไม่มีอัพไซด์ (upside) จากราคาปัจจุบัน โดยผู้ที่น่าจะเข้าซื้ออย่าง TCC Group และ Central Group จะมีหนี้สินจำนวนมากจากการซื้อ Metro และ Family Mart ที่ผ่านมา       นอกจากนี้ จากการคำนวณเบื้องต้น ที่ผ่านมามีการทำ M&A และการประเมินมูลค่าปัจจุบัน (คู่แข่งในท้องถิ่นและภูมิภาค) ระบุว่าราคาขายที่สูงที่สุดของ BIGC น่าจะอยู่ที่ 248 บาทต่อหุ้น (จากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ หรือ P/E ที่สูงสุดในไทย ตาม P/E ของ MAKRO) ซึ่งคิดเป็น P/E ปี 2558 ที่ 27.4 เท่า หรือ ปี 2559 ที่ 25 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กลุ่มคาสิโน ประเทศฝรั่งเศส โพสต์บนเว็บไซต์ว่าอยู่ในกระบวนการขายธุรกิจในเวียดนาม ในขณะบริษัทได้รับข้อเสนอจากผู้สนใจที่ต้องการซื้อหุ้นที่บริษัทถือครองในBIGC จํานวนมาก และบริษัทกําลังพิจารณาขายสินทรัพย์ไทยแก่ผู้ที่ทําให้เกิดผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทและผู้ถือหุ้น
เนื่องจากมีภาระหนี้กว่า 2,000 ล้านยูโร ส่วนหนึ่งของแผนลดหนี้ คือ บริษัทคาดว่าจะได้เงิน 750 ล้านยูโรจากการขายสินทรัพย์เวียดนาม แผนเริ่มแรกสําหรับประเทศไทย และโคลัมเบีย คือการจัดตั้ง REITs มูลค่า 550 ล้านยูโรในประเทศไทย และ 200 ล้านยูโรในโคลัมเบีย กลุ่มคาสิโนกลายเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BIGC ตั้งแต่ปี 2542 ด้วยราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 9-10 เท่าตั้งแต่นั้นมา และมีโอกาสเติบโตที่จํากัด เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต และทิศทางการดําเนินธุรกิจคาสิโนที่มีลักษณะอนุรักษ์ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่กลุ่มจะขายหุ้นที่ถือหุ้นอยู่ใน BIGC
หากอิงกับดีลในตลาดค้าปลีกไทยก่อนหน้า BIGC เข้าซื้อกิจการคาร์ฟูร์ ในปี 2554 และCPALL เข้าซื้อ MAKRO ในปี 2556 ที่ EV/Sales ที่ 1.18 เท่า สําหรับดีลคาร์ฟูร์และ1.46 เท่า สําหรับดีล MAKRO ซึ่ง BIGC น่าจะถูกขายที่ราคา 186-231 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ แนะนํา “ขาย” BIGC เนื่องจากราคาเป้าหมายถูกคํานวณโดยอิงกับทีมผู้บริหารและแผนธุรกิจในปัจจุบัน ภายใต้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบัน 
โดยแผนธุรกิจภายใต้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ค่อนข้างระมัดระวัง เชื่อว่าราคาขายน่าจะสูงกว่าราคายุติธรรม เพราะเป็นเรื่องปกติของการเข้าซื้อกิจการที่ผู้ซื้อมักจะสมมุติให้เข้ามาปลดล็อกการเติบโต จากความเชี่ยวชาญของตัวเอง แพลตฟอร์มธุรกิจที่มีอยู่ และ synergies จะที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ผู้สนใจซื้อเป็นไปได้ที่จะเป็นกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในปัจจุบันอยู่มากกว่า10%, นายเจริญที่เป็นเจ้าของธุรกิจจํานวนมาก เช่น บริษัทไทยเบฟ และ BJC และซีพีกรุ๊ป ที่หาโอกาสในการลงทุนในทุกธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (18 ม.ค. 59) ราคาหุ้น BIGC ปรับตัวขึ้น โดยระหว่างวันได้ปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 247 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 237 บาท เพิ่มขึ้น 11 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 4.87% มูลค่าการซื้อขาย 266.42 ล้านบาท นอกจากนี้ มีรายการ
บิ๊กล็อตหุ้น BIGC จำนวน 12,900 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,070,200 บาท ที่ราคาเฉลี่ย 238 บาท
:S&P เล็งพิจารณาลดเครดิต CASINO
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ว่า หุ้นคาสิโน กุยชาด์-แปร์ราชอง ปรับตัวลงหลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์พัวร์ (S&P) กำลังพิจารณาลดอันดับตราสารหนี้ของบริษัทฝรั่งเศสลงไปสู่ระดับขยะ โดยอ้างว่ามีความวิตกเกี่ยวกับการกู้เงินและภาวะที่ย่ำแย่ในบราซิลและเอเชีย
เอสแอนด์พี กล่าวว่า อันดับระยะยาวที่ BBB ของคาสิโนต้องถูกจับตาในเชิงลบ เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรจะยังคงค่อนข้างลดลงเป็นเวลานานและระดับหนี้ของบริษัทสูงเกินไป โดยเอสแอนด์พีอาจจะลดอันดับของคาสิโนลงถึงสองอันดับ แม้จะได้ยืนยันอันดับของคาสิโนในเดือนธันวาคม แต่ได้ลดการคาดการณ์ลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพราะกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 ส่งผลให้หุ้นคาสิโนต่ำสุดในรอบกว่าสองทศวรรษ โดยเมื่อวานนี้ หุ้นคาสิโนในตลาดปารีสปรับตัวลงถึง 4.3%
สำหรับคาสิโนกำลังถูกโจมตีจาก มัดดี้ วอเตอร์ แอลแอลซี ของคาร์สัน  บล็อก นักทำช็อร์ตเซล ซึ่ง มัดดี้ วอเตอร์ยืนยันว่าคาสิโนกำลังใช้วิศวกรรมทางการเงินปิดบังการถดถอยอย่างรุนแรงของธุรกิจหลัก และยังกล่าวว่า เอสแอนด์พี ได้ประเมินภาระหนี้ที่สูง ซึ่งต่ำกว่าจริง ทั้งที่อยู่ในภาวะอันตราย 
ทั้งนี้ คาสิโนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ โดยกล่าวว่า บริษัทมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่งและอาจจะดำเนินการทางกฎหมาย และคาดว่าผลการดำเนินงานในฝรั่งเศสในปี 2559 จะดีขึ้น และแผนการขายสินทรัพย์จะทำให้โครงสร้างทางการเงินมีความแข็งแกร่ง โดยคาสิโนมีแผนการที่จะขายบิ๊กซีในประเทศไทยและธุรกิจในเวียดนาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น