วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

MCร่วมทุนฉลุย-รายได้โตปีละ20%


 

     
   

      

           
  MCร่วมทุนฉลุย-รายได้โตปีละ20%
"แม็คกรุ๊ป"ต่อยอดธุรกิจไลฟ์สไตล์ ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ร่วมทุน 51% ใน"ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น" จำหน่ายนาฬิกาแฟชั่นกว่า 20 แบรนด์ คาดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 500 ล้านบาท ส่งซิกปีหน้าสรุปดีลร่วมทุนอีก 1-2 ราย หวังช่วยเพิ่มศักยภาพเติบโต ไม่หวั่นรายได้ปีนี้พลาดเป้าเล็กน้อย เพราะกำไรยังโต 20% ส่วนปีหน้ามองรายได้ยังเป็นขาขึ้น พร้อมเดินหน้าโรดโชว์ฮ่องกง-อเมริกา ดึงนักลงทุนต่างชาติถือหุ้น ด้านกูรูยกให้เป็น Country’s Top Pick แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 18.40 บาท
**แตกไลน์จับธุรกิจนาฬิกา
          นางปรารถนา มงคลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้ บริษัท ลุค บาลานซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MC เข้าลงทุนในบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วโลก และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยมูลค่าลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51%
          การลงทุนครั้งนี้ก่อให้เกิดการต่อยอดทางธุรกิจอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจากทีมงาน และการเงินที่แข็งแกร่งของแม็คกรุ๊ป ที่จะช่วยในการวางแผน ต่อรอง และบริหารเครือข่ายการจัดจำหน่าย บริหารคลังสินค้าและการกระจายสินค้า รวมถึงการขยายธุรกิจของ ไทม์ เดคโค นอกจากนี้แล้ว แม็คกรุ๊ป ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์ของไทม์ เดคโค มาวางขายในร้านค้าปลีกของบริษัทที่มีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้รายได้ของทั้งสองบริษัทเพิ่มสูงขึ้น
          นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MC กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีกับการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ นอกเหนือจากจะเป็นการขยายธุรกิจของเราสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างเต็มตัวแล้ว ยังเกิดประโยชน์ด้าน Synergy ที่ลงตัวสำหรับทั้งสองฝ่าย จากเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายและคอนเนคชั่นในต่างจังหวัด รวมถึงห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่น ระบบคลังสินค้าและเครือข่ายการกระจายสินค้า ระบบคอมพิวเตอร์ ณ จุดขาย โครงการการฝึกอบรมและพัฒนาทีมขาย และระบบการบัญชี อีกทั้งสามารถใช้จุดจำหน่ายของแม็คกรุ๊ปที่มีอยู่มาบริหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้และกำไรแก่ทั้ง 2 บริษัท รวมถึงตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างดีที่สุด
          ปัจจุบัน บริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น นำเข้านาฬิกากว่า 20 แบรนด์ สำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ทั้งในกลุ่มของ Fashion และ Fashion Luxury อาทิเช่น Diesel, DKNY, Emporio Armani, Marc by Marc Jacobs,Burberry, Coach, Lacoste, Tommy Hilfiger, Victorinox Swiss Army, Fossil และ Kenneth Cole New York เป็นต้น โดยมีจุดขาย 103 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมถึงร้านค้าของบริษัทภายใต้ชื่อ “ไทม์ เดคโค” และ มียอดขายประมาณ 400 ล้านบาท ในปี 55 

**คาดสร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 500 ลบ.

          นางสาวสุณี เปิดเผยว่า การร่วมทุนในบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จะเกิดประโยชน์ที่ลงตัวสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยบริษัทฯคาดว่าบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่นจะสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ให้กับบริษัท โดยปกติไทม์ เดคโคฯมีอัตราการเติบโตของรายได้ระดับปีละ 10% ซึ่งยังไม่รวมกับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นร่วมกันในการร่วมทุนครั้งนี้
          "ไทม์ เดคโคฯคงจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับเราอย่างชัดเจนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท เพราะหลังจากการร่วมทุนเชื่อว่าการเติบโตของทั้งสองบริษัทจะเป็นไปในทิศทางที่ดี และมีศักยภาพ โดยเรามองว่าไทม์ เดคโคฯจะมีลักษณะการเติบโตเหมือน MC ในช่วงเริ่มต้น จากรายได้ 500 ล้านบาท ขยับไปเป็น 1,000 ล้านบาท และขยับไปเป็น 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ก็อยู่ที่การวางแผนของทั้งสองบริษัทว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด เรายังสรุปไม่ได้ว่าไทม์ เดคโคฯจะเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าจะดีแน่นอน" นางสาวสุณี กล่าว

**ส่งซิก! ปีหน้าสรุปดีลร่วมทุนอีก 1-2 ราย

          นางสาวสุณี เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯยังมีการพูดคุยเพื่อร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆในกลุ่มธุรกิจที่ใกล้เคียงกันอีก 1-2 ราย โดยคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีหน้า หลังจากที่ปีนี้บริษัทฯได้ให้บริษัทลุคบาลานซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MC ถือหุ้น 100% เข้าลงทุนในบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วโลก ด้วยมูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 51%
          "เรายังมีดีลที่อยู่ระหว่างพูดคุยอีก 1-2 ราย แต่ความชัดเจนคงจะเป็นปีหน้า โดยเรายังมองหาการควบรวมกับกลุ่มธุรกิจประเภทไลฟ์สไตล์เพื่อช่วยหนุนศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ส่วนเงินลงทุนนั้นก็ยังอยู่ในวงเงินสำหรับการร่วมทุนที่ 1 พันล้านบาท จากการระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าลงทุนในไทม์ เดคโคฯ ไปแล้ว 200 ล้านบาท ก็จะเหลือเงินให้ใช้สำหรับดีลควบรวมต่างๆอีก 800 ล้านบาท" นางสาวสุณี กล่าว
**ยันกำไรโต 20%-ลุยขยายสาขาต่อเนื่อง
          นางสาวสุณี เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้คงจะโตไม่ถึงเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้มากกว่า 20% จากปี 2555 ที่มีรายได้ 2,564 ล้านบาท เนื่องจากภาวะการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว และพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคาดหวังว่าจะทำรายได้ให้อยู่ระดับเติบโต 20% จากปีก่อน โดยเชื่อว่ารายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้ทั้งปีให้เติบโตในระดับดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
          "ก่อนหน้านี้เราบอกว่ารายได้จะโตมากกว่า 20% แต่ตอนนี้คงไม่ถึงระดับนั้น เพราะการบริโภคชะลอตัวลงมาก โดย 9 เดือนที่ผ่านมาเรามีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งในช่วง Q4 ที่เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาราวกว่าพันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทั้งปีเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน ทั้งนี้แม้รายได้จะมีการปรับลดลงจากเป้าหมายเดิม แต่ส่วนของกำไรสุทธิยังคงมั่นใจว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 600 ล้านบาท เพราะเรามีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น" นางสาวสุณี กล่าว
          ส่วนปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตอย่างน้อย 20% จากปีนี้ หลังจากที่บริษัทฯได้ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้มั่นใจว่าการขยายจุดจำหน่ายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 80 แห่ง ส่วนปีหน้าตั้งเป้าจะขยายจุดจำหน่ายอีก 100 แห่งทั่วประเทศไทย
          ขณะที่ภายในสัปดาห์นี้บริษัทฯ มีแผนเดินทางไปเจรจาและแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯในประเทศมาเลเซีย ขณะที่สัปดาห์หน้าจะเดินทางไปเจรจาและแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย เชื่อว่าการตั้งตัวแทนจำหน่ายใน 2 ประเทศดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการภายในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศจำนวน 7-8 แห่ง แบ่งเป็นที่พม่า 6-7 แห่ง และที่ลาว 1 แห่ง
          "สัปดาห์นี้เราจะไปคุยกับทางมาเลย์เพื่อตั้งตัวแทนจำหน่าย โดยพาร์ทเนอร์ที่เราจะใช้เป็นพาร์ทเนอร์ขนาดใหญ่ในกลุ่ม wholesale มีลูกค้าในมือกว่า 400 ราย และในประเทศมาเลเซียกำลังซื้อสูงมาก ที่สำคัญช่วงไฮซีซั่นของมาเลย์จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นในประเทศไทย ดังนั้นจะช่วยสนับสนุนยอดขายรวมของบริษัทฯให้เติบโตอย่างมีศักยภาพได้อีก ส่วนที่อินโดฯจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่เป็นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งมีจุดขายทั่วประเทศอินโดฯ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของเราในการเจาะตลาดประเทศอินโดนีเซีย" นางสาวสุณี กล่าว 

** เร่งโรดโชว์ฮ่องกง-อเมริกา

          นางสาวสุณี เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นของบริษัทฯจำนวนหนึ่งแล้ว หลังจากที่บริษัทฯได้ไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยนักลงทุนดังกล่าวมีความสนใจกับโมเดลธุรกิจของบริษัทฯที่รุกตลาดในประเทศเป็นสำคัญ อีกทั้งในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯมีการจ่ายเงินปันผลไปกว่า 80% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ล่าสุด บริษัทฯได้ไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์เพิ่มอีก และในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค. 56) จะไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง และเดือนหน้าจะไปโรดโชว์ที่อเมริกา ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจลงทุนหุ้น MC มากยิ่งขึ้น
** กูรูแนะนำซื้อ ให้เป้าหมาย 18.40 บาท
          บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ธนชาต ระบุว่า แนะนำซื้อ MC ให้ราคาเป้าหมายที่ 18.40 บาท โดย MC ถือเป็นหุ้นใหม่ใน Country’s Top Pick ของธนชาต โดยคาดว่ากำไรจะเติบโตที่ 19% (fully-diluted กำไรต่อหุ้นโตที่ -11%), 27% และ 21%ในปี 2013-15F ซึ่งมีปัจจัยผลักดันหลัก คือ ยอดขายที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น 14-22% และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 55.9% ในปี 2012 เป็น 57.5%, 58.0%และ 58.4% ในปี 2013-15F แม้สมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ต่อจุดขายลดลง แต่รายได้ยังคงถูกผลักดันโดยการขยายสาขาเชิงรุกที่ 90, 79 และ 65 สาขาในปี 2013-15F เทียบกับ 53 สาขาต่อปี ในปี 2011-12 ในขณะเดียวกัน economies of scale จากยอดขายจำนวนมาก, กลยุทธ์เน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง และช่องทางจัดจำหน่าย เป็นปัจจัยผลักดันอัตรากำไร MC ให้มีความสามารถในการทำกำไรสูงด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ 24-26% ในปี 2013-15F และแม้ไม่มี financial leverage (สถานะเงินสดสุทธิ) แต่ ROE คาดการณ์ยังคงอยู่ในระดับสูงที่มากกว่า 20% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแผนขยายสาขาเชิงรุกสามารถทำได้
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น