วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ฝรั่งเลือกเก็บหุ้นรายตัว เก็บKBANK-BTSหนัก ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 05 พฤศจิกายน 2556

ฝรั่งเลือกเก็บหุ้นรายตัว
เก็บKBANK-BTSหนัก

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 05 พฤศจิกายน 2556 
ผู้เข้าชม : 16 คน 

ฝรั่งเลือกซื้อหุ้นรายตัว KBANK, BBL, INTUCH, BTS, EGCO, ADVANC, PTTEP,  PTT, TUF และ SCB
ผ่าน NVDR ช่วงที่การเมืองร้อนแรงตั้งแต่ 25 ต.ค.-1 พ.ย.นี้
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ยอดการซื้อหุ้นสุทธิผ่านบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (NVDR) ตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน 2556 พบว่า มีหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5 อันดับแรก มีดังนี้ 1.หุ้น
ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ซื้อสุทธิ 1,063.08 ล้านบาท, 2.หุ้นธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ซื้อสุทธิ  945.89 ล้านบาท
3.หุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซื้อสุทธิ 721.04 ล้านบาท, 4.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS  ซื้อสุทธิ  560.40 ล้านบาท, 5.หุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ  EGCO ซื้อสุทธิ 375.98 ล้านบาท, 6.หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ  ADVANC ซื้อสุทธิ 217.04 ล้านบาท
7.หุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด  (มหาชน) หรือ PTTEP ซื้อสุทธิ 210.02 ล้านบาท, 8.หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF ซื้อสุทธิ 198.12 ล้านบาท, 9.หุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ  PTT ซื้อสุทธิ 185.59 ล้านบาท, 10.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซื้อสุทธิ 179.67ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า แม้ปัญหาทางการเมืองจะกดดันตลาดหุ้นไทย และมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอออกมา ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง แต่ยังมีหุ้นรายตัว หรือบางตัวที่นักลงทุนต่างชาติยังทยอยเข้าไปซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นที่ติดอยู่ในกลุ่ม SET50 ของตลาดหุ้นไทย
“การเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ ไม่ได้หมายความว่าเทขายหุ้นทั้งหมด ยังมีบางส่วนที่มีการซื้อกลับ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีแนวโน้มการจ่ายปันผลที่ดีเช่นกัน หากดูยอดการซื้อสุทธิในหุ้น KBNAK จะเห็นได้ว่าตัวเลขสูงพอสมควรเกิน 1 พันล้านบาท ถือเป็นยอดซื้อสะสมอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการประกาศผลประกอบการออกมาแล้วก็ตาม” นักวิเคราะห์ กล่าว
ฉะนั้นนักลงทุนไม่ควรกังวลกับการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้น เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อการเมืองจบ หุ้นก็จะกลับขึ้นมาเหมือนเดิม ตามพื้นฐานของหุ้นตัวนั้น เนื่องจากประเด็นปัญหาที่กดดันตลาดหุ้นไทยตอนนี้ไม่ใช่พื้นฐานผลประกอบการของบริษัท แต่เป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของการแบ่งผลประโยชน์ เพื่อต้องการทางออก สุดท้ายก็จะจบแบบผลประโยชน์ที่ลงตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น