วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

SCBกินฟี3ดีลยักษ์
ฟันกำไร4พันล้าน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

ธนาคารไทยพาณิชย์ รับรู้รายได้ค่าธรรมเนียม 3 ดีลใหญ่ทั้ง CPALL–EGAT–TRUE  ตั้งแต่ไตรมาส 4 ไปถึงไตรมาส 1/57  ไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้าน แย้มปีหน้ามีอีกหลายดีลในมือ แม้ไม่ใหญ่เท่าปีนี้ โบรกฯแนะนำ “ซื้อ” เคาะราคาเป้าหมาย 212 บาทต่อหุ้น

                    นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ในไตรมาส 4/56 ธนาคารจะรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำดีล 3 รายการใหญ่ ประกอบด้วย CPALL ที่เข้าซื้อหุ้นของ MAKRO โดยรับรู้ไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3/56 และจะรับรู้ต่อเนื่องอีกในไตรมาส 4/56 ด้วย ซึ่งมีมูลค่าดีลนี้อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท สำหรับค่าธรรมเนียมในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบล.ไทยพาณิชย์ที่จะได้รับอยู่ที่ประมาณ 0.5-1% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่จะได้รับประมาณ 1-2 พันล้านบาท โดยจะไม่รวมดอกเบี้ยจากการที่ได้สิทธิปล่อยสินเชื่อในการซื้อหุ้น MAKRO
                    ส่วนอีก 2 ดีล ประกอบด้วย กฟผ. ที่จะจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยใช้รายได้ หรือกระแสเงินสดในอนาคตของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือเป็นทรัพย์สินในการระดมทุน ซึ่งในเบื้องต้นได้ประมาณการขนาดของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีอายุกองทุน 15-25 ปี
                    โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถศึกษารูปแบบการจัดตั้งกองทุนรวมแล้วเสร็จภายใน 120 วันเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา และสามารถเสนอขายได้ภายใน 180 วันหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวม ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันในไตรมาส 4/56 เช่นเดียวกัน
                   สำหรับดีลสุดท้ายที่กำลังทำอยู่ คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม หรือ TRUEGIF โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 6.4-7.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างก.ล.ต. ร่างหนังสือชี้ชวนฯ โดยธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งธนาคารจะรับรู้รายได้ตรงส่วนนี้ในไตรมาส 4/56 เหมือนกัน
                  “ดีลปีนี้จบแล้ว ไม่มีอีกแล้ว ซึ่งรายได้เรารับรู้มาตั้งแต่ไตรมาส 3/56 แล้ว และจะรับรู้ไปถึงไตรมาส 1/57 ส่วนดีลใหญ่ๆ ในปีหน้าคงไม่เท่าปีนี้ โดยมีทั้ง M&A กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ Property Fund และ IPO” นายอาทิตย์ กล่าว
                  โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ ผู้จัดการกลุ่มอุตสาหกรรม สายงานวาณิชธนกิจ SCB กล่าวว่า ในปีหน้า 2557 Sentiment การลงทุนหุ้น IPO จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยในปี 2557 บริษัทมีดีลในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) จำนวน 5 ดีล ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์, กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) และกลุ่ม Engineering โดยมาร์เก็ตแคปของแต่ละบริษัทจะมีไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท
                 นักวิเคราะห์มองว่าดีลขนาดใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะบันทึกกำไรจากค่าธรรมเนียมเป็นกำไรพิเศษในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ไปถึงไตรมาสที่ 1 ปีหน้า คาดว่าจะประมาณ 3-4 พันล้านบาท
                นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า การที่ SCB เป็นที่ปรึกษาในหลายโครงการขนาดใหญ่นั้นทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1 พันล้านบาทต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ย MLR ที่ 7% ซึ่งยังมีอีกหลายโครงการที่ SCB จะได้ทำ โดยทำให้อาจมีการปรับประมาณการ และกำไรเพิ่มขึ้น
                นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 212 บาท ซึ่งปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งจากการเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนฐานเงินกองทุนยังแข็งแกร่ง มีเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel III เท่ากับ 16.37% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 11.87%  ซึ่งราคาเหมาะสมอิง Prospect P/BV ที่ระดับ 2.8 เท่า และ Ke 10.24% ได้เท่ากับ 212 บาท และคงคำแนะนำ“ซื้อ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น