วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตลาดหลักทรัพย์ข้องใจ โกลด์แมนแซ็คส์ ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้องใจ “โกลด์แมน แซคส์” ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากมีเพียงสถาบันเดียวที่ทำก็น่ากังขาว่ามาจากเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องสภาพคล่องคงไม่มีปัญหา แต่ถ้ามาจากพื้นฐาน ศก. ก็น่ากังวล เพราะสถาบันอื่นอาจปรับลดตาม สมาคมโบรกฯ เชื่อแค่ชั่วคราว คาดไม่กระทบภาพรวม เพราะนักลงทุนในประเทศมีสัดส่วนถึง 75% จะกลับเข้ามาซื้อหุ้น                นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นน้อยกว่าตลาด (อันเดอร์เวต) จากเดิมเท่าตลาดว่า หากมีโกลด์แมน แซคส์ เพียงสถาบันเดียวที่ลดน้ำหนักการลงทุนประเทศไทยก็ต้องพิจารณาก่อนว่ามาจากเรื่องอะไรเป็นหลัก                ทั้งนี้ หากกรณีดังกล่าวมาจากเรื่องสภาพคล่องของตลาดหุ้นคงไม่มีปัญหา แต่หากมาจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจของไทย อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล และมีผลต่อตลาดหุ้นไทย และหากเริ่มมีสถาบันการจัดอันดับอื่นปรับลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยลงตามมาอีกหลายแห่ง และให้เหตุผลเดียวกันก็ไม่ควรมองข้าม และจำเป็นที่จะต้องรับฟัง เพราะน่าจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมาก                นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดความน่าลงทุนในหุ้นไทยลงนั้นน่าจะเป็นเรื่องชั่วคราวจากการขาดเสถียรภาพทางการเมือง และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังต้องติดตามสาเหตุในการปรับลดดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทย                อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติอาจจะยังชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากยังกังวลสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่คงเป็นช่วงเวลาชั่วคราวเท่านั้น ขณะเดียวกัน คาดว่านักลงทุนในประเทศ และนักลงทุนสถาบันซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนถึง 75% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด น่าจะรอจังหวะกลับเข้ามาซื้อหุ้น หลังจากที่ได้ลดน้ำหนักการลงทุนมามากแล้ว                ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้มีการนัดประชุมหารือกับบริษัทสมาชิกเพื่อรับมือสถานการณ์การเมืองในประเทศที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้การซื้อขายหุ้นสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยในช่วงนี้แนะนำนักลงทุนให้ชะลอการลงทุนไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ ให้ชัดเจน ซึ่งประเมินว่าหากเหตุการณ์ไม่รุนแรงดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,300-1,350 จุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น